MPI เดือนแรกของปี 2557หดตัว 6.4% ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 61.76%


ดร.วิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า สรุปทั้งปี 2556 GDP ภาคอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 0.1 ส่วนไตรมาสที่ 4/2556 GDP ภาคอุตสาหกรรม หดตัวร้อยละ 2.9 เป็นผลมาจากมาตรการรถยนต์คันแรกสิ้นสุดลง การบริโภคภาคครัวเรือนชะลอตัว และการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมลดลง

 

ดร.สมชาย หาญหิรัญ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(MPI) เดือนมกราคม 2557 หดตัวรอยละ 6.4 ด้านอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ร้อยละ 61.76 จากการลดลงของการผลิตยานยนต์ เบียร์ อาหารทะเลกระป๋องและแช่แข็ง เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน เครื่องประดับและเพชรพลอย

 

หากแยกเป็นรายอุตสาหกรรม กลุ่มของยานยนต์ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยมียอดลดลงทั้งยอดการส่งออกและยอดขายภายในประเทศ ยอดการส่งออกขายได้ 155,000 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 54.44 ส่วนยอดจำหน่ายในประเทศมี 67,422 คัน ลดลงร้อยละ 45.91 ทั้งนี้เหตุผลสำคัญที่ยอดขายภายในประเทศลดลงเป็นผลมาจากหมดนโยบายรถคันแรก

 

ส่วนอุตสาหกรรมที่มีการขยายตัวคือกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.60 โดยเพิ่มขึ้นทั้งในกลุ่ม  Monolithic IC, Semiconductor และฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ สำหรับอุตสาหกรรมไฟฟ้าปรับตัวลดลงร้อยละ 1.01 ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน ยกเว้นเครื่องปรับอากาศที่เติบโตไปกับอสังหาริมทรัพย์ที่ขยายตัวและส่งออกไปยังประเทศอาเซียน และสหภาพยุโรป โดยขยายตัวเพิ่มถึงร้อยละ 30.94

 

ด้านอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ตลาดทั้งภายในประเทศและส่งออกต่างมียอดลดลง ยกเว้นกลุ่มเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่มียอดสูงขึ้นร้อยละ 1.49 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากตลาดขนาดใหญ่ทั้งสหรัฐ ยุโรปและญี่ปุ่นฟื้นตัว

 

อุตสาหกรรมอาหารภาพรวมปรับตัวลดลงจากปีก่อนร้อยละ 2.1 ส่งออกลดลงร้อยละ 6.9 เป็นผลมาจากภัยธรรมชาติและการระบาดของโรค

 

สุดท้ายอุตสาหรรมเหล็กและเหล็กกล้า มียอดการบริโภคในเดือนมกราคม 2557 จำนวน 1.42 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 19.12 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการชะลอคำสั่งซื้อเพื่อรอดูทิศทางในอนาคต

 

ดร.สมชาย หาญหิรัญ กล่าวว่า จากยอดการหดตัวของอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ส่งผลต่อ คำสั่งซื้อไปยัง  SMEs ต่างๆ ชะลอตัวลงด้วย โดยเฉพาะคำสั่งซื้อใหม่ คำสั่งซื้อที่ลดลงเห็นได้อย่างชัดเจนในหมู่ SMEs ที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ต่างหยุดรอดูสถานการณ์ทางการเมืองและการใช้จ่ายของรัฐก่อน