สสว. เผยสถานการณ์ SMEs เดือนมกราคม 2557 ตัวเลขการส่งออกรวม 157,396.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.00 ตลาดส่งออกใหญ่ยังคงอยู่ที่ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ส่วนกลุ่ม AEC มีมาเลเซียและอินโดนีเซียเป็นตลาดหลัก สินค้าส่งออกสำคัญ คือ อัญมณี พลาสติก และเครื่องจักร
นายปฏิมา จีระแพทย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ตามที่ สสว. มีบทบาทในการจัดทำและพัฒนาองค์ความรู้และฐานข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการเสนอแนะนโยบายรวมถึงมาตรการในการส่งเสริม สนับสนุนและช่วยเหลือ SMEs โดยทำการศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์ SMEs เดือนมกราคม 2557 พบว่า ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อ SMEs มาจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยเฉพาะสถานการณ์ชุมนุมทางการเมือง รวมถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลัก ที่ส่งผลทั้งในด้านการใช้จ่ายภายในประเทศ การลงทุนภาคเอกชน การผลิตภาคอุตสาหกรรม รวมถึงการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศ พบว่า การส่งออกของ SMEs มีมูลค่า 157,396.52 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปี 2556 คิดเป็นร้อยละ 10.00 และเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมที่ผ่านมา คิดเป็นร้อยละ 9.42 มูลค่าการส่งออกของ SMEs ต่อมูลค่าการส่งออกรวม คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 27.23 ตลาดที่ SMEs ไทย มีการส่งสินค้าออกไปมากที่สุด ได้แก่ จีน มีมูลค่า 20,486.23 ล้านบาท รองลงมา คือ ญี่ปุ่น มูลค่า 15,936.39 ล้านบาท สหรัฐอเมริกา มูลค่า 12,927.49 ล้านบาท มาเลเซีย มูลค่า 7,733.55 ล้านบาท และอินโดนีเซีย มูลค่า 7,617.65 ล้านบาท
“ตลาดหลักสำคัญของ SMEs ไทยเกือบทุกประเทศมีการส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ยกเว้นอินโดนีเซียที่หดตัวลงเล็กน้อย ผลจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักดังกล่าว ส่วนสินค้าส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก คือ อัญมณีและเครื่องประดับ พลาสติกและของที่ทำด้วยพลาสติก เครื่องจักร คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ยางและของที่ทำด้วยยาง อุปกรณ์ไฟฟ้าและส่วนประกอบ” นายปฏิมา กล่าว
ในส่วนการนำเข้าของ SMEs เดือนมกราคม 2557 มีมูลค่า 188,359.80 ล้านบาท หดตัวลงจากเดือนเดียวกันของปี 2556 คิดเป็นร้อยละ 26.96 แต่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมที่ผ่านมา คิดเป็นร้อยละ 6.82 มูลค่าการนำเข้าของ SMEs คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 28.24 ของมูลค่าการนำเข้ารวมทั้งประเทศ ทั้งนี้ตลาดที่ SMEs นำเข้าสินค้ามากที่สุด คือ จีน รองลงมาคือ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย และสาธารณรัฐเกาหลีตามลำดับ สินค้าที่นำเข้ามากที่สุด คือ อุปกรณ์ไฟฟ้าและส่วนประกอบ รองลงมาคือ เครื่องจักร คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ อัญมณีและเครื่องประดับ พลาสติกและของที่ทำด้วยพลาสติก เหล็กและเหล็กกล้า ตามลำดับ