สงกรานต์ปีนี้ การท่องเที่ยวไม่คึกยอดตก 21 %


ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้สำรวจพฤติกรรมการท่องเที่ยวและการใช้บริการโรงแรมและที่พักของคนไทยช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2557 ในช่วงระหว่างวันที่ 18-25 มีนาคม 2557 จากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกช่วงอายุและทุกระดับรายได้จำนวน 1,133 คน สำหรับผลการสำรวจดังนี้

                จากผลการสำรวจ พบว่า มีกลุ่มตัวอย่างเพียงร้อยละ 18 ที่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2557 ซึ่งลดลงจากปี 2556 ที่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศช่วงเทศกาลสงกรานต์ร้อยละ 25 (“การท่องเที่ยว” ในที่นี้จำกัดเฉพาะการเดินทางไปยังจังหวัดที่ไม่ใช่ถิ่นที่อยู่อาศัย ไม่รวมการท่องเที่ยวของคนในพื้นที่ และการเดินทางกลับภูมิลำเนาเดิมในต่างจังหวัด)

                กลุ่มตัวอย่างที่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ส่วนใหญ่ คือ กว่าร้อยละ 66 ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่ต่างประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยว ด้วยการหันมาลดจำนวนวันท่องเที่ยวลง เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านที่พักและอาหาร ขณะที่กลุ่มตัวอย่างบางส่วนก็เลือกปลายทางท่องเที่ยวที่ไม่ไกลมากนักและ/หรือเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางท่องเที่ยว เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายด้านการเดินทาง

สำหรับกลุ่มตัวอย่างอีกร้อยละ 34 ที่ระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในปัจจุบัน ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์นั้น ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีการวางแผนการท่องเที่ยวล่วงหน้าไว้แล้ว รวมถึงยังเดินทางท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นประจำทุกปี

                ทั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างที่เดินทางท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ส่วนใหญ่ คือ ประมาณร้อยละ 83 เดินทางท่องเที่ยวในรูปแบบค้างคืน ในจำนวนนี้กว่าร้อยละ 42 เลือกพักค้างคืนที่บ้านญาติและเพื่อน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายด้านที่พักภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ในขณะที่กลุ่มตัวอย่างอีกร้อยละ 41 เลือกใช้บริการด้านที่พักจากสถานประกอบการต่างๆ โดยแบ่งเป็นรีสอร์ทร้อยละ 19 โรงแรมร้อยละ 12 และโฮมสเตย์ร้อยละ 10

จากจำนวนนักท่องเที่ยวคนไทยที่เดินทางท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปี 2557 ที่มีแนวโน้มลดลงจากปี 2556 โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงจึงให้ความสำคัญกับการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านต่างๆมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลดจำนวนวันท่องเที่ยวลงหรือเดินทางท่องเที่ยวโดยไม่พักค้างคืน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายด้านที่พัก รวมถึงนักท่องเที่ยวคนไทยยังมีทางเลือกในการพักบ้านญาติหรือเพื่อนทดแทนการพักสถานประกอบการต่างๆ ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและที่พัก

                นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวคนไทยยังมีแนวโน้มเลือกเดินทางท่องเที่ยวก่อนหรือหลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากเป็นช่วงที่ค่าใช้จ่ายด้านที่พักต่ำกว่าช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวมถึงยังสามารถหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดและนักท่องเที่ยวจำนวนมากเกินไปในช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้อีกด้วย ประกอบกับในปี 2557 นี้ ยังมีจำนวนวันหยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์เพียงสี่วัน ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงมองว่า ภาพรวมธุรกิจโรงแรมและที่พักช่วงเทศกาลสงกรานต์จะไม่คึกคักเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยคาดการณ์ว่าจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวคนไทยประมาณ 6,080 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 21 จากปี 2556 ที่คาดการณ์ว่ามีรายได้ประมาณ 7,700 ล้านบาท

ผลการสำรวจ ยังได้สะท้อนถึงพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่เปลี่ยนแปลงไปของนักท่องเที่ยวกลุ่มคนกรุงเทพฯและปริมณฑล ในลักษณะที่กระจุกตัวเที่ยวในบางจังหวัดเป็นหลัก ได้แก่ เชียงใหม่ เพชรบุรี ชลบุรี ระยอง และประจวบคีรีขันธ์

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ที่ผ่านมา การจัดงานเทศกาลสงกรานต์ในพื้นที่สำคัญของกรุงเทพฯ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติให้เดินทางเข้ามาเที่ยวกรุงเทพฯในช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับในปีนี้ สถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในกรุงเทพฯ ได้เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้การจัดงานเทศกาลสงกรานต์ในพื้นที่สำคัญของกรุงเทพฯ มีความซบเซาลงเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม พบว่า การจัดงานเทศกาลสงกรานต์ในต่างจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ และเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ที่เป็นศูนย์กลางการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ที่สำคัญของภาคเหนือและภาคตะวันออก ตามลำดับ ซึ่งยังคงมีการจัดงานเทศกาลสงกรานต์อย่างคึกคัก ยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนกรุงเทพฯและปริมณฑลที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศจากงานเทศกาลสงกรานต์ในกรุงเทพฯไปยังต่างจังหวัด

สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาวของเทศกาลสงกรานต์ปีนี้นั้น ยังคงเลือกเมืองท่องเที่ยวชายทะเล อาทิ เพชรบุรี ระยอง และประจวบคีรีขันธ์ เป็นลำดับต้นๆ โดยจังหวัดดังกล่าวล้วนมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวที่เป็นคนกรุงเทพฯและปริมณฑลเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพชรบุรี เป็นจังหวัดที่มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวที่เป็นคนกรุงเทพฯและปริมณฑลเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากร้อยละ 4 ในปี 2556 เป็นร้อยละ 12 ในปี 2557

กล่าวโดยสรุป แม้ว่าภาพรวมของธุรกิจโรงแรมและที่พักในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้จะมีแนวโน้มซบเซากว่าปีที่ผ่านมา แต่การจัดงานเทศกาลสงกรานต์อย่างยิ่งใหญ่ในจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคต่างๆ เช่น เชียงใหม่ ชลบุรี เป็นต้น ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวคนไทยโดยเฉพาะคนกรุงเทพฯให้เดินทางไปเที่ยวเพื่อร่วมงานได้ รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงก็เป็นข้อจำกัดสำคัญที่กำหนดให้คนกรุงเทพฯที่ต้องการท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์ปีนี้เลือกท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลระยะใกล้ในภาคตะวันออกและภาคตะวันตก เช่น เพชรบุรี ระยอง ประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงโอกาสของผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและที่พักในพื้นที่ดังกล่าว ที่ยังคงสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สวนทางกับแนวโน้มธุรกิจโรงแรมและที่พักในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในภาพรวมของปี 2557 นี้ ที่คาดว่าจะไม่คึกคักเทียบเท่ากับปีที่ผ่านมา