ขยายสินค้าไทยบุกตลาดสิงคโปร์ผู้นำทางการค้า


สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความโปร่งใสในการทำธุรกิจเป็นอันดับที่ 5 ของโลก ใน 176 ประเทศ ถึงแม้ประชากรมีเพียง 5.4 ล้านคน แต่ผู้บริโภคชาวสิงคโปร์มีกำลังซื้อสูงที่สุด ฉะนั้นสิงคโปร์จึงเป็นอีกหนึ่งตลาดที่ลงทุนเป็นอย่างมาก

นายมาตยวงศ์ อมาตยกุล นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ประเทศสิงคโปร์ถือว่าเป็นผู้นำทางธุรกิจในอาเซียน ถึงแม้จะเป็นประเทศที่มีขนาดเล็ก มีพื้นที่เพียง 1,000 ตารางกิโลเมตร มีจำนวนประชากรประมาณ 5.4 ล้านคน อีกทั้งยังมีข้อจำกัดทางด้านทรัพยากรธรรมชาติ แต่ด้วยความพร้อมทางโครงสร้างพื้นฐาน อย่าง ระบบคมนาคม ระบบขนส่ง และโลจิสติกส์ ประกอบกับมีกฎหมายที่เคร่งครัดปลอดคอร์รัปชั่น มีระบบการเมืองการปกครองที่มีเสถียรภาพ และประชากรมีการศึกษาสูง ซึ่งนับว่าเป็นข้อได้เปรียบของประเทศ อีกทั้งยังรวมไปถึงการเปิดเสรีทางการค้าการลงทุนอย่างเต็มรูปแบบมานาน จึงทำให้สิงคโปร์เป็นประเทศผู้นำทางด้านเศรษฐกิจ พร้อมทั้งนักลงทุนต่างชาติยังให้ความสนใจลงทุนในสิงคโปร์มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังมีความโปร่งใสในการทำธุรกิจอันดับที่ 5 ของโลก จาก 176 ประเทศ และที่สำคัญประเทศสิงคโปร์มีกฎหมายที่ให้ความเป็นธรรมแก่นักธุรกิจต่างชาติและนักลงทุนในประเทศอย่างเท่าเทียมกันด้วย โดยสามารถลงทุนได้ 100% อีกทั้งยังให้อิสระในการโอนเงินตราระหว่างประเทศและผลกำไรในการประกอบธุรกิจออกนอกประเทศได้

นอกจากนี้ ผู้บริโภคชาวสิงคโปร์มีกำลังซื้อสูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ถึงแม้ว่าสิงคโปร์จะมีประชากรน้อยก็ตาม แต่ GDP มีมูลค่าประมาณ 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ และในปี 2556 มีการขยายตัวประมาณร้อยละ 4 ของรายได้เฉลี่ยต่อคนของประเทศสิงคโปร์ ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

สำหรับด้านการค้าระหว่างประเทศไทยและสิงคโปร์นั้น สิงคโปร์ถือว่าเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 6 ของไทย ด้วยเหตุนี้ทำให้ในปี 2556 มีมูลค่าการค้าระหว่างประเทศไทยกับประเทศสิงคโปร์สูงเกือบ 1.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ดังนั้นเมื่อดูมูลค่าการส่งออกสินค้าของประเทศไทยแล้วพบว่า เราส่งออกไปยังประเทศสิงคโปร์มีมูลค่าประมาณ 1.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ฉะนั้นในสินค้าที่ประเทศไทยส่งออกไปนั้น คือ น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบแผงวงจรไฟฟ้า อัญมณีและเครื่องประดับ

กลยุทธ์นำสินค้าไทยบุกตลาดสิงคโปร์

คุณธนาภรณ์  ผู้จัดการฝ่ายต่างประเทศ บริษัท พิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม จำกัด กล่าวว่า ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีศักยภาพสูง พร้อมทั้งมีโลจิสติกส์ที่ดี อีกทั้งนอกจากเราจะสามารถส่งสินค้าไปยังประเทศสิงคโปร์ได้แล้ว เรายังสามารถส่งสินค้าต่อไปยังประเทศใกล้เคียงได้อีกด้วย อย่างเช่นประเทศมาเลเซีย เป็นต้น ดังนั้นการที่จะส่งออกสินค้าไปยังประเทศสิงคโปร์ สิ่งแรกควรเตรียมเอกสารที่สำคัญให้ครบถ้วน เพื่อที่ให้ส่งสินค้าของเราไปถึงปลายทางภายในประเทศได้

คุณธนาภรณ์  กล่าวต่อว่า “การที่จะนำสินค้าของเราเข้าสู่สิงคโปร์สิ่งแรก ต้องดูว่าสินค้าของเราเหมาะแก่ลูกค้าอย่างไร อย่างผลิตภัณฑ์น้ำพริกเผาของเรานี้ เมื่อก่อนมีเพียง 2 ชนิด แต่ตอนนี้เราได้มีการพัฒนาถึง 600 ชนิด ซึ่งก่อนที่จะมีผลิตภัณฑ์ออกมามากขนาดนี้ เราต้องมองกลุ่มตลาดและกลุ่มลูกค้าให้ออกก่อนว่า ลูกค้าในปัจจุบันนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งทางเราก็ได้มองแล้วพบว่า คนในปัจจุบันมีการเร่งรีบไปทำงานในแต่ละวัน ไม่มีเวลาในการทำอาหาร ทางเรานำสิ่งที่เราสำรวจมาผลิตสินค้าให้ง่าย เละสะดวกเหมาะแก่กลุ่มลูกค้านี้ โดยเพียงแค่ฉีกซองเทใส่จานก็สามารถทานได้เลย ใช้เวลาในการทำไม่นาน เพราะผลิตภัณฑ์ของเราเป็นรูปแบบสำเร็จรูป อย่างไรก็ตามจึงอยากให้มองกลุ่มตลาดและกลุ่มลูกค้าให้ออกก่อน แล้วค่อยดำเนินการขั้นตอนต่อไปในการผลิตสินค้าของเราออกมา อีกทั้งสิ้นค้าของเราต้องมีการแนะนำสรรพคุณสินค้าของเราให้แก่กลุ่มลูกค้าทราบถึงสินค้าของเรา ว่าเป็นอย่างไร ดีอย่างไร และต้องมีโปรโมชั่นให้แก่ลูกค้าด้วย”

คุณยุทธนา  ศิลป์สรรค์วิชช์ กรรมการและเลขาการสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย กล่าวว่า ประเทศสิงคโปร์นับว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวไปเที่ยวเป็นจำนวนมาก กว่า 15 ล้านคน แต่ส่วนอีก 5 ล้านคนคือคนสิงคโปร์จริงๆ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคนในสิงคโปร์แท้ๆ หรือเป็นนักท่องเที่ยวที่เข้ามายังประเทศสิงคโปร์ ผู้คนเหล่านี้ล้วนแล้วมีกำลังซื้อของภายในสิงคโปร์ด้วยกันทั้งสิ้น  และเมื่อมองสินค้าภายในสิงคโปร์นั้น สินค้าแต่ละอย่างมีราคาสูงพอสมควร ฉะนั้นนักลงทุนไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องของการกำหนดราคาสินค้าไปขายยังตลาดสิงคโปร์ เพราะเมื่อเขาต้องการซื้อสินค้าเราแล้ว และพอใจในสินค้าเรา เขาไม่มองเพียงแค่ราคาถูกหรือแพงเท่านั้น แต่ผู้ซื้อกลุ่มนั้นกลับมองเพียงแค่ว่าสินค้าเราได้คุณภาพมากแค่ไหนเท่านั้น เพราะฉะนั้นอย่างแรกที่เราจำเป็นต้องคิดก่อนออกไปลงทุนในตลาดสิงคโปร์ นักลงทุนจำเป็นต้องศึกษาพื้นที่ตลาดที่เราจะเข้าไปลงทุนก่อนว่า สินค้าของเราเหมาะสมแก่ผู้คนในพื้นที่นี้มากแค่ไหน และต้องมองอีกว่าเราจะขายสินค้าของเราให้แค่คนสิงคโปร์อย่างเดียวหรือไม่ ทั้งนี้ต้องมองการตลาดให้ออกก่อนที่จะตัดสินจะเข้าไปบุกตลาดจริง

นอกจากนี้ช่องทางสื่อออนไลน์ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สำคัญ เพราะนอกจากช็อปทางหน้าร้านแล้ว ยังสามารถช็อปสินค้าผ่านออนไลน์ได้อีกด้วย ดังนั้นสื่อออนไลน์ก็สามารถทำได้ทั้งขายสินค้า และก็ซื้อสินค้าได้ด้วย นับว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สะดวกเป็นอย่างมาก คุณยุทธนา  กล่าวทิ้งท้าย

Mr.Mike  Loke กรรมการผู้จัดการบริษัท Polyvers Asia Pacific Pte Ltd. ดำเนินธุรกิจ Trading ในสิงคโปร์ กล่าวว่า คนในประเทศสิงคโปร์ถึงแม้จะมีจำนวนน้อย แค่พวกเขามีกำลังซื้อสินค้าได้ ไม่ว่าจะแพงมากแค่ไหนก็ตาม คนสิงคโปร์มองแค่สินค้านั้นมีคุณภาพมากเท่าไหน ฉะนั้นสิงคโปร์จึงเป็นประเทศที่น่าลงทุนเป็นอย่างมาก นอกจากนี้การ สินค้าของไทย ที่มีโอกาสคือ สินค้าประเภทอาหาร แฟชั่น เฟอร์นิเจอร์ และสินค้าที่เป็นของประดับตกแต่คอนโดมิเนียม เพราะประเทศสิงคโปร์ส่วนใหญ่แล้วมีคอนโดเป็นจำนวนมาก ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ ต้องมีการออกแบบ มีแนวคิดในการผลิตสินค้าออกมาให้น่าสนใจ สำหรับในเรื่องของเครื่องสำอาง ก็อยู่ในความน่าสนใจของตลาดสิงคโปร์เช่นกัน