ก้าวที่ไม่หยุดนิ่งของไร่ชา “ไทยโชคจำเริญ”


“ไทยโชคจำเริญ”ธุรกิจไร่ชาที่พัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยการส่งเสริมคุณภาพการผลิตชาให้เป็นที่ยอมรับทั้งภายในและต่างประเทศ ด้วยระบบเกษตรอินทรีย์ ตลอดจนแข่งขันได้รางวัลผลิตภัณฑ์ดีเด่น 5 ดาวในงานโอท๊อป

 

บริษัท ไทยโชคจำเริญ ดำเนินกิจการปลูกชาเป็นเวลากว่า 20 ปี มีไร่ตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงราย เริ่มต้นจากการนำใบชาที่ตนเองปลูกมาอบแห้งป้อนตลาดภายในประเทศก่อน เป็นการดำเนินธุรกิจแบบรับจ้างผลิตหรือ OEM หลังจากนั้น 5 ปี ก็เริ่มสร้างแบรนด์เป็นของตนเองภายใต้ชื่อ “ชาไทยมรกต” ด้วยการสร้างภาพลักษณ์ว่าเป็นชาคุณภาพดีระดับพรีเมี่ยม จึงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนมีโอกาสส่งออกไปต่างประเทศ

 

ด้วยโอกาสที่สามารถส่งออกไปสู่ต่างประเทศมากขึ้น ทำให้ไร่ชา “ไทยโชคจำเริญ” ไม่หยุดนิ่ง เข้าขอคำปรึกษาจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้รับคำแนะนำว่าควรปลูกในระบบเกษตรอินทรีย์ เพราะจะทำให้ชาได้ราคาและเป็นที่ต้องการในตลาดต่างประเทศที่กว้างขวางขึ้น เพราะไม่ได้รับการกีดกันทางการค้า

 

นาย ศุภกิตติ์ ชีวินเฉลิมโชติ เจ้าของไร่ชา“ไทยโชคจำเริญ”รุ่นที่ 2 เล่าให้ฟังว่า ไร่ของตนเองตัดสินใจทำชาเกษตรอินทรีย์ หลังจากดำเนินธุรกิจชามาเป็นเวลา 10 ปีโดยนำเอามาตรฐานของทางสหรัฐมาใช้ตามคำแนะนำของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในระยะแรกของการทำเกษตรอินทรีย์ต้องทิ้งร้างไร่ชาเป็นเวลา 3 ปี เพื่อเป็นการชะล้างสารเคมีและสารปนเปื้อนในดินออก นอกจากนี้ในระยะแรกของการปลูกเกษตรอินทรีย์ชาจะแห้งตายเป็นจำนวนมาก เพราะยังปรับตัวไม่ได้ ในระยะนั้นบริษัทไม่สามารถทำตลาดชาส่งออก มีไว้แต่ขายเฉพาะภายในประเทศเท่านั้น แต่หลังจากนั้นต้นชาเริ่มปรับตัวได้ ผลผลิตก็ได้กลับมาเป็นที่พอใจ และสามารถผลิตออกสู่ต่างประเทศได้มากขึ้น

 

ไต้หวันเป็นประเทศแรกที่ให้การต้อนรับชาของ “ไทยโชคจำเริญ” ตั้งแต่เริ่มดำเนินกิจการ แต่เมื่อนำระบบเกษตรอินทรีย์เข้ามาใช้ ทำให้สามารถขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศยุโรป โดยเฉพาะอังกฤษ ฝรั่งเศส ซึ่งมีมาตรฐานเรื่องการนำเข้าอยู่ในระดับที่สูง ต่อมาก็สามารถส่งออกไปยังรัสเซียได้อีกด้วย

 

ชาที่ผลิตในเครือของ “ไทยโชคนำเจริญ” มีทั้งหมด 3 ประเภทคือ ชาเขียว ขาอู่หลง และชาดำซึ่งหมายถึงกรรมวิธีการผลิตที่แตกต่างกัน กรรมวิธีการผลิตชาอู่หลง ซึ่งเป็นกระบวนการอบชาที่จะต้องผ่านการผึ่งในห้องเย็นเป็นเวลา 14-18 ชั่วโมงก่อน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพของใบชาที่เด็ดมา หลังจากอบแล้วก็จะนำไปเข้าสู่กระบวนการอัดเม็ดต่อไป ชาอู่หลงทำตลาดให้กับ ส่วนชาเขียวกระบวนการผลิตไม่ต้องผ่านการผึ่งในห้องเย็น แต่ใช้การตากกับแดดนานประมาณ 20 นาที ก็สามารถเข้าสู่กระบวนการอบและอัดเม็ดได้เลย  ต่อมาชาดำหรือ Black Tea เป็นกระบวนการผลิตชาที่ต้องผ่านการหมักประมาณ 20 ชั่วโมงก่อนถึงค่อยเข้าสู่กระบวนการอบและอัดเม็ด

 

คุณศุภกิตติ์ เล่าให้ฟังว่า ปริมาณการผลิตของเขาทำขึ้นมาเพื่อป้อนการส่งออกถึงเกือบ 70 % และส่วนใหญ่ยังคงเป็นการรับจ้างผลิตให้กับแบรนด์ดังๆ ในต่างประเทศ ซึ่งชาแต่ละชนิดเป็นที่ต้องการของตลาดที่ไม่เหมือนกัน ชาเขียวส่วนหนึ่งเป็นที่นิยมในตลาดยุโรปเพราะราคาผลิตของไทยยังถูกกว่าหลายประเทศ แต่ปริมาณการผลิตส่วนใหญ่ของตนป้อนสู่โรงงานผลิตเครื่องดื่มเพื่อนำไปใช้เป็นส่วนประกอบของรสชาติเสียมากกว่า ส่วนชาอู่หลงขณะนี้กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดจีน  และไต้หวัน ด้านชาดำเป็นที่ต้องการของฝั่งยุโรป

 

เคล็ดลับที่สำคัญของการสร้างความสำเร็จให้กับ “ไทยโชคจำเริญ” คือการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กระบวนการปลูกไปจนถึงกระบวนการจัดจำหน่าย ในกระบวนการปลูกนั้นเขาได้สะสมองค์ความรู้เกี่ยวกับการผสมสายพันธุ์ชาจากแหล่งต่างๆ ด้วยกรรมวิธีการทาบกิ่ง ต่อยอด จนได้สายพันธุ์ชาเป็นของตนเอง อาทิ การนำเอาพันธุ์ทิพย์กวนอิ่มมาทาบกิ่งกับอู่หลงก้านทองจนได้สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งจะเป็นอีกรสชาติหนึ่ง ส่วนทิพย์กวนอิ่มก็เป็นอีกสายพันธุหนึ่งซึ่งรับมาจากจีนแล้วเอามาพัฒนาสายพันธุ์ต่อ เป็นต้น

 

ด้านการอบก็ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญชาวฮ๊กเกี้ยนมาช่วยถ่ายทอดความรู้ในการอบชาชนิดต่างๆ ที่มีสายพันธุ์และความชื้นต่างกันต้องมีกระบวนการผึ่งเย็น การตาก การหมักและการอบที่แตกต่างกัน ด้านการตลาดนอกเหนือจากการเป็น OEM ให้กับตลาดภายในประเทศและตลาดส่งออกแล้ว ทางค่าย “ไทยโชคจำเริญ”ก็ยังมีแบรนด์เป็นของตนเอง โดยแบ่งตลาดออกเป็น 2 ระดับคือ “ชาไทยมรกต” จะวางตำแหน่งไว้เป็นชาระดับบน ตัวนี้เติบโตมาเป็นเวลากว่า 15 ปี และมีศักยภาพส่งออกไปต่างประเทศแล้ว ส่วนชาอีกตัวตั้งชื่อว่า “จตุพลชาไทย” เป็นชาที่สร้างบุคลิกแบบไทยๆ ทั้งนี้มีเป้าหมายต้องการเจาะตลาดภายในประเทศ เน้นรสนิยมคนดื่มชาที่เป็นคนไทย

 

เรื่องของการส่งเสริมการขายนั้น “ไทยโชคจำเริญ” เน้นออกงานโรด์โชว์ทั้งภายในและต่างประเทศ เพื่อให้ลูกค้านำไปจัดจำหน่ายต่อ หรือเพื่อเป็นการรับออร์เดอร์เพื่อการผลิตต่อ นอกจากนี้เพื่อให้สินค้าเป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภค ผลิตภัณฑ์ชาของ “ไทยโชคจำเริญ”ก็ยังส่งเข้าประกวดงานโอท๊อปและได้รับการคัดเลือกอยู่ในระดับ 5 ดาว เป็นเวลาหลายปีติดต่อกัน  และเพื่อให้การดำเนินกิจการต่อยอดและบูรณาการ “ไทยโชคนำเจริญ”ยังเปิดไร่ของตนเองเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรมอีกด้วย หากสนใจสามารถติดต่อได้ที่ เลขที่ 888 หมู่ 1 ตำบลแม่สลอง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โทร 053-765117-8