ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ จะมีเม็ดเงินสะพัดไปยังธุรกิจจำหน่ายสินค้าบริโภคและสินค้าที่เกี่ยวข้องในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก 2557 กว่า 21,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 15 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยผลักดันสำคัญที่ทำให้บรรยากาศการจับจ่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคกลับมาคึกคักอีกครั้ง
มหกรรมฟุตบอลโลก ครั้งที่ 20 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 12 มิถุนายน – 13 กรกฎาคม 2557 ณ ประเทศบราซิล นับได้ว่าเป็นการแข่งฟุตบอลที่คนทั้งโลกต่างตั้งตารอ ทางด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การแข่งขันฟุตบอลโลกในปีนี้ ดูท่าจะคึกคักกว่าการแข่งขันในครั้งที่ผ่านๆมา โดยเฉพาะเรื่องของเวลาการแข่งขันที่มีการถ่ายทอดสดในประเทศไทยจะเริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น. จนถึงเวลาประมาณ 01.30 น. ถือว่าเป็นเวลาที่ดึกมากเกินไป ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่สะดวกต่อการรับชมการถ่ายทอดสด แต่สำหรับปี 2557 จะเริ่มทำการแข่งขันตั้งแต่เวลา 23.00 น. ไปจนถึงเวลา 05.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาพักผ่อน จึงทำให้เกิดข้อจำกัดในเรื่องเวลาของการรับชมของผู้บริโภคกลุ่มหนึ่ง โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงานและกลุ่มคนสูงอายุ อย่างไรก็ดี คาดว่าจะยังมีกลุ่มวัยรุ่นอย่างนักเรียนหรือนักศึกษาที่จะสามารถรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกในช่วงเวลาดังกล่าวได้ เนื่องจากยังอยู่ในช่วงปิดภาคการศึกษา
สำหรับการแข่งขันในปีนี้ มีทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันที่มีชื่อเสียงในระดับโลก อาทิเช่น บราซิล สเปน อังกฤษ อิตาลี เยอรมนี ฝรั่งเศส อาร์เจนติน่า เป็นต้น ทำให้ดึงดูดความสนใจของกลุ่มคนดูให้ติดตามรับชมการแข่งขันได้เป็นอย่างดี เลยเกิดกระแสความนิยมในการรับชมและเชียร์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ได้มีการสร้างกลุ่มแฟนบอลกลุ่มใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงรุ่นใหม่ ส่วนช่องทางในการรับชมมา ผู้บริโภคสามารถรับชมการถ่ายทอดสดทุกแมทช์การแข่งขันผ่านช่องฟรีทีวี แต่ด้วยการเติบโตของอุตสาหกรรมเคเบิ้ลทีวีและทีวีดาวเทียมในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ประกอบกับการเกิดทีวีดิจิตอล และความนิยมในการใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต จึงทำให้การรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้ ผู้บริโภคจะได้รับชมผ่านช่องทางที่หลากหลายขึ้นตามความสนใจและความสะดวกในการรับชมของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการรับชมผ่านช่องฟรีทีวีในระบบอะนาล็อกหรือระบบดิจิตอล ช่องรายการในระบบทีวีดาวเทียมหรือเคเบิ้ลทีวี หรือแม้แต่การรับชมผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต
ทางศูนย์วิจัย ยังคงมองว่า ฐานผู้ชมที่รอชมการแข่งขันอยู่มีจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลและกลุ่มวัยรุ่นที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 4 ปีก่อน ส่วนช่องทางในการรับชมก็มีอยู่อย่างหลากหลาย ส่งผลให้เม็ดเงินสะพัดไปยังธุรกิจจำหน่ายสินค้าบริโภคและสินค้าที่เกี่ยวข้องในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกกว่า 21,600 ล้านบาท โดยเม็ดเงินสะพัดในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก 2557 ในครั้งนี้จะตกอยู่ที่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการรับชมฟุตบอลโลกเป็นหลัก ซึ่งแตกต่างจากการแข่งขันฟุตบอลโลก 2553 ที่เม็ดเงินส่วนใหญ่จะอยู่ที่ธุรกิจสินค้าบริโภค
การผลิตและจำหน่ายกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์…..รายได้พุ่ง 13,500 ล้านบาท
ผู้บริโภคสามารถรับชมการแข่งขันฟุตบอลโลกบนอุปกรณ์ต่างๆ อย่างหลากหลายช่องทาง และแต่ละช่องทางต่างมีข้อจำกัดในการรับชมที่แตกต่างกัน โดยผู้บริโภคอาจจะสามารถรับชมได้ทุกแมทช์การแข่งขันหรืออาจจะรับชมได้เพียงบางแมทช์การแข่งขันเท่านั้น ซึ่งอุปกรณ์ที่เป็นทางเลือกใหม่สำหรับการรับชมฟุตบอลโลกในครั้งนี้ ก็คือการรับชมผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต แต่ทางศูนย์วิจัยเกษตรกรไทย มองว่า จะมีผู้บริโภคบางกลุ่มที่จะรับชมฟุตบอลโลกผ่านโมบายแอพพลิเคชั่นบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ดังกล่าว เนื่องจากบางแมทช์การแข่งขันไม่ได้ถูกแพร่ภาพผ่านช่องฟรีทีวี ประกอบกับผู้บริโภคสามารถรับชมการแข่งขันได้ทุกที่ ทุกเวลา ตามความต้องการของตนเองและสามารถรับชมรายการแบบย้อนหลังได้ ซึ่งอาจเหมาะกับผู้บริโภคที่ไม่สะดวกรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันในยามค่ำคืน
อย่างไรก็ดี อุปกรณ์หลักที่เป็นที่นิยมสำหรับการรับชมฟุตบอลโลกยังคงเป็นเครื่องรับโทรทัศน์ รวมถึงกล่องรับสัญญาณต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกล่องรับสัญญาณดาวเทียมหรือเคเบิ้ลทีวีที่มีช่องรายการถ่ายทอดสดการแข่งขันแบบครบทุกแมทช์การแข่งขันด้วยภาพที่มีความละเอียดสูง หรือกล่องรับสัญญาณทีวีระบบดิจิตอลที่แพร่ภาพการแข่งขันบนช่องฟรีทีวีด้วยภาพที่มีความละเอียดสูง
คาดว่า มูลค่าตลาดของอุปกรณ์การรับชมในช่วงมหกรรมฟุตบอลโลกจะอยู่ที่ตลาดเครื่องรับโทรทัศน์มากที่สุด โดยมีสัดส่วนกว่าร้อยละ 80.5 ของมูลค่าตลาดอุปกรณ์การรับชมทั้งหมด คิดเป็นมูลค่า 10,850 ล้านบาท ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตสูงกว่าร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2556 โดยเติบโตลดลงจากช่วงมหกรรมฟุตบอลโลกในครั้งก่อนหน้าที่มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 35 ขณะที่มูลค่าตลาดกล่องรับสัญญาณดาวเทียมหรือเคเบิ้ลทีวี และกล่องรับสัญญาณระบบดิจิตอลจะมีมูลค่าอยู่ที่ 2,500 ล้านบาท และ 150 ล้านบาท หรือมีสัดส่วนร้อยละ 18.4 และ 1.1 ของมูลค่าตลาดอุปกรณ์การรับชมทั้งหมด ตามลำดับ
ธุรกิจพึ่ง…บอลโลกกระตุ้นยอดขาย
นอกเหนือจากปัจจัยทางด้านการเมืองที่มีความชัดเจน และมีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มในการใช้จ่ายงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัว มหกรรมการแข่งขันฟุตบอลโลก น่าจะเป็นส่วนหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นและผลักดันให้ตลาดเครื่องดื่มมีความเคลื่อนไหวที่คึกคักมากขึ้น โดยคาดว่าช่วงระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลก จะสามารถเพิ่มยอดจำหน่ายเครื่องดื่มประมาณร้อยละ 5-10 จากช่วงปกติ หรือประมาณ 2,800 ล้านบาท ซึ่งถือว่าลดลงจากในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งก่อนๆ ที่จะเติบโตราวร้อยละ 10-15 ที่เติบโตจากความต้องการบริโภคเครื่องดื่มในช่วงระหว่างติดตามชมการแข่งขัน รวมถึงกลยุทธ์ของผู้ประกอบการที่จัดกิจกรรมชิงโชคแจกแถมแลกของรางวัล
ทั้งนี้ คาดว่า สินค้าในกลุ่มเสื้อผ้ากีฬาในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกในปีนี้ น่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 5-10 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่าตลาดเสื้อกีฬาในประเทศในปี 2557 นี้ มีโอกาสพุ่งไปแตะที่ระดับ 10,000 ล้านบาท โดยสินค้าที่มีโอกาสทำตลาด ยังคงอยู่ในกลุ่มเสื้อผ้ากีฬาระดับกลางถึงบน เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่หันมานิยมสินค้าในกลุ่ม Brand Name เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ต่างประเทศหรือในประเทศ จากการที่มีการพัฒนาในเรื่องของเทคโนโลยี ฟังก์ชั่นการใช้งานและการออกแบบในเชิงแฟชั่นมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะรูปแบบลำลอง (Sport Casual) ที่เข้ามาเพิ่มโอกาสในการสวมใส่อย่างไม่จำกัดว่าจะต้องใส่เล่นกีฬาเท่านั้น แต่ยังสามารถสวมใส่ในการทำกิจกรรมอื่นๆ ได้อีกด้วย ซึ่งก็เท่ากับว่าเป็นการเพิ่มความถี่ในการบริโภคสินค้าในกลุ่มนี้ และทำให้สินค้ากลุ่มนี้มีศักยภาพในการขยายตลาดผู้บริโภคได้เพิ่มขึ้น
จากพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพื่อให้เข้าถึงการรับชม จำนวนผู้ชมที่มีจำนวนมากขึ้นและมีความหลากหลายเพิ่มขึ้น รวมไปถึงราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น จากช่วงเวลาเดียวกันกับการแข่งขันครั้งก่อน ในขณะที่ผู้ประกอบการในหลายภาคส่วนธุรกิจก็ได้ออกมาทำการตลาดเกาะกระแสฟุตบอลโลกกันอย่างคึกคัก เพื่อกระตุ้นความต้องการซื้อของผู้บริโภคที่จะเกิดขึ้น เช่น การลดราคาสินค้า การออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับฟุตบอลโลก หรือการให้ของที่ระลึกเกี่ยวกับฟุตบอลโลก เป็นต้น แม้ในภาพรวม ข้อจำกัดด้านเวลาการถ่ายทอดสดการแข่งขันอาจมีผลต่อการรับชม แต่เทศกาลที่มีเพียงครั้งเดียวในรอบ 4 ปี น่าจะช่วยสร้างสีสันและกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคในสินค้าที่เกี่ยวข้องในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ ในระยะถัดไป หากมีการยกเลิกมาตรการห้ามออกจากเคหะสถานเวลาค่ำคืนในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกในพื้นที่เขตเมืองใหญ่เพิ่มเติมอีก ก็น่าจะทำให้บรรยากาศในช่วงมหกรรมการแข่งขันฟุตบอลโลกมีสีสันมากยิ่งขึ้น
