เขตเศรษฐกิจการค้าระหว่างไทย – กัมพูชา คนส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับด่านถาวรอรัญประเทศ จ.สระแก้ว หรือที่เราเรียกกันว่า ตลาดโรงเกลือ ในอดีตตรงบริเวณนี้เป็นสถานที่ใช้เก็บเกลือ เพื่อนำไปขายให้กับชาวกัมพูชานำไปใช้ทำปลาเค็ม ต่อมาความจำเป็นในการใช้เกลือลดน้อยลง ประกอบกับเกิดการสู้รบภายในประเทศกัมพูชา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 – 2536 ทำให้ชาวกัมพูชาประสบสภาวะข้าวยากหมากแพงไทยจึงได้เข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยการเป็นตลาดการค้าใหญ่ที่สุดและสำคัญของพรมแดนแถบนี้อยู่ทางฝั่งไทย ซึ่งจากปี 2556 มีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 51,625 ล้านบาท
อีกหนึ่งด่านถาวรที่ถูกจับตาเป็นเขตเศรษฐกิจใหม่ ฝั่งชายแดนตะวันออก “บ้านหาดเล็ก” ที่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังประเทศกัมพูชา มูลค่าการค้าของด่าน “บ้านหาดเล็ก” ปีที่ผ่านมาสูงทะลุ 25,431 ล้านบาท โดยเฉลี่ยเติบโตด้วยอัตรา 11 – 12% ต่อปี ซึ่งหากพิจารณาในเรื่องมูลค่าส่งออกสินค้าไปกัมพูชามีจำนวนที่สูงมากแต่ กัมพูชากลับมียอดส่งสินค้าเข้ามาไทยในปี 2556 เพียงแค่ 1,393 ล้านบาท
คุณนิยม ไวยรัชพานิช รองประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้อำนวยการส่งเสริมการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน กล่าวว่า กัมพูชาพึ่งพาอาศัยสินค้าจากประเทศไทยสูงมากในแต่ละเดือนโดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มอุปโภค บริโภค ทุกๆ ชนิด เพราะสินค้าไทยมีคุณภาพ อยู่ในกลุ่มพรีเมี่ยมเกรด ซึ่งได้เปรียบมากกว่าสินค้าจากประเทศเวียดนาม ผู้บริโภคชาวกัมพูชาจึงมีความไว้วางใจในการซื้อสินค้ากลุ่มอุปโภค บริโภค และสินค้า ที่มาจากประเทศไทยทุกประเภท
การค้าระหว่าง 2 ประเทศได้มีการพัฒนาและยกระดับมากขึ้น และถนนสาย 48 จาก จ.เกาะกง สู่ อ.นาเกลือ ที่เชื่อมถนนสายที่ 4 จากพนมเปญ- สีหนุวิลล์ได้ทำการต่อขยายถนนเป็น 4 เลน ส่งผลให้การขนส่งทางบกเริ่มขยายตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีเส้นทางแนวชายทะเลที่ส่งไปยังท่าเรือสีหนุวิลล์ ท่าเรือกัมปอต และท่าเรือ อ.นาเกลือ หรือสะแออัมเปิลและส่งต่อไปยังพนมเปญ ออกสู่เวียดนามได้อีกด้วย
ด้วยพื้นที่ของด่านแห่งนี้อยู่ใน จ.ตราด ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่างเกาะช้าง ประเทศกัมพูชา จึงต้องการสร้างแหล่งท่องเที่ยวเพื่อเชื่อมต่อ และในขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว โดยการสร้าง “สีหนุวิลล์” ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ครบวงจรเหมือนพัทยา
นอกจากนี้แถบชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ที่มุ่งสู่ทะเลจีนใต้เพื่อข้ามไปยังประเทศเวียดนาม เพื่อไปสู่เกาะ “ฟูก๊วก” หรือเกาะกระต่าย รัฐบาลเวียดนามกำลังพัฒนาให้กลายเป็นเสมือนเกาะภูเก็ตของประเทศไทย เรียกได้ว่าเป็นความร่วมมือจากทั้ง 3 ประเทศ ที่ต้องการสร้างเกาะต่างๆ ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกันได้ ในอนาคตจะกลายเป็นเส้นทางท่องเที่ยว 3 ประเทศ 3 เกาะ ได้ใน 1 ทริป คาดว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น
“ขณะนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงเจรจา จากการสร้างข้อตกลงระหว่าง 2 ประเทศ ไทย – กัมพูชา ให้สามารถเพิ่มปริมาณการเดินรถไม่ว่าจะเป็น รถขนาดเล็กรถขนาดใหญ่ ให้สามารถข้ามไปยังกัมพูชาได้อย่างไม่จำกัดจำนวน และผ่านเข้า – ออก ได้ทุกๆ ช่องทางที่เป็นด่านถาวร เช่นเดียวกับการเดินทางข้ามไปยัง สปป.ลาว ซึ่งขณะนี้ยังไม่สำเร็จ เพราะอยู่ในช่วงที่ประเทศไทยกำลังรอการแต่งตั้งรัฐบาลใหม่” คุณนิยมกล่าว
อนาคตด่านถาวร “บ้านหาดเล็ก” จะกลายเป็นด่านที่มีเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างมาก ธุรกิจที่เกี่ยวกับท่องเที่ยวบูม เป็นโอกาสที่ธุรกิจ SMEs สามารถเข้ามากอบโกยรายได้จากการท่องเที่ยวได้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจทัวร์ ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจร้านขายของที่ระลึก ธุรกิจสอนดำน้ำ ธุรกิจสปา ธุรกิจเสื้อผ้า ฯลฯ นอกเหนือจากธุรกิจท่องเที่ยวแล้ว SMEs ที่ผลิตสินค้าในกลุ่มบริโภคก็ยังสามารถส่งสินค้าไปขายยังประเทศกัมพูชาได้เพราะยังมีช่องว่างทางการตลาดที่เปิดกว้าง ช่วยให้ SMEs ไทยมีเวทียืนเพิ่มมากขึ้นด้วย