แนะค้าปลีกค้าส่ง แข่งขันนานาชาติ


สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จัดงานสัมมนา “SMEs พบห้างค้าปลีกและค้าส่ง ผลิตอย่างไรให้ตรงใจจัดซื้อ” เพื่อเปิดโอกาสให้ SMEs ได้มีความรู้ความเข้าใจที่จะผลิตสินค้าหรือบริการได้ตรงกับความต้องการของตลาดหรือผู้ซื้ออย่างแท้จริง

 

คุณปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล ประธานคณะกรรมการธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากผลสำรวจความคิดเห็น SME Index เกี่ยวกับความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ SMEs พบว่าส่วนใหญ่ขาดสภาพคล่อง การบริหารต้นทุน ปัญหาในเรื่องของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้มีความแตกต่างและสร้างจุดเด่นของสินค้ารวมถึงขาดศักยภาพเรื่องการพัฒนาบุคลากรในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านนวัตกรรม ด้านทักษะฝีมือแรงงาน ตลอดจนไม่เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

 

ดังนั้น การยกระดับผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถแข่งขันกับนานาชาติได้อย่างมั่นคง และยั่งยืน และปิดช่องว่างของปัญหาได้นั้น จำเป็นต้องมีการส่งเสริมด้านการพัฒนาศักยภาพ ซึ่งภายในงานสัมมนาได้มีการแนะนำการพัฒนาและเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศนั้น แบ่งเป็น 4 ระดับ

1. Collection economy คือ การขายวัตถุดิบ และทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งประเทศไทยผ่านมาแล้ว

2. Production economy คือ การนำวัตถุดิบมารับจ้างผลิตเป็นสินค้า ซึ่งปัจจุบันธุรกิจไทยอยู่ในขั้นนี้จำนวนมาก

3. Service Based economy คือ ธุรกิจจากพื้นฐานภาคบริการ

4.Speculation economy คือการหากำไรจากการเงิน ส่วนใหญ่จะเป็นชาติมหาอำนาจเข้าหาผลตอบแทนในตลาดเงินตลาดทุน เช่น สหรัฐฯ และชาติยุโรป              

 

ดังนั้นแนวทางการพัฒนาจะต้องยกระดับจากภาคการผลิตสู่ภาคการบริการให้ได้ เพราะจุดเด่นของธุรกิจภาคบริการ คือ กำไรสูงมาก และไม่มีการจำกัดขอบเขต อีกทั้ง ยังเป็นธุรกิจที่เหมาะกับ SMEs ที่มีความหลากหลาย เป็นต้น