กรมการค้าต่างประเทศประกาศนโยบายระบายข้าวในสต๊อกเดือนละ 5-6 แสนตัน คาดใช้เวลา 3 ปีระบายออกหมด เน้นนโยบายทยอยขาย หลีกเลี่ยงผลกระทบกับตลาดหลัก จับมือกับเอกชนทวงแชมป์ส่งออก เปิดโอกาสให้รายย่อยในหลายอุตสาหกรรมเข้ามารับซื้อในราคาตามมาตรฐาน และสภาพที่เป็นจริง
คุณ ดวงพร รอดพยาธิ์ รักษาการอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ตนเองได้รับการมอบหมายจาก คสช.เข้ามาดำรงตำแหน่งนี้ มีเป้าหมายงานสำคัญคือการระบายสต๊อกข้าวรัฐที่มีอยู่กว่า 18 ล้านตัน ซึ่งถือว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ที่เคยมีมี โดยนโยบายการระบายข้าวของตนนั้นจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่จำเป็นต้องเร่งรัดจนทำให้ถูกกดดันจากข้างนอกเหมือนที่ผ่านมา เพราะจะต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อข้าวเปลือกและข้าวฤดูใหม่ที่จะออกมาด้วย โดยคาดว่าจะสามารถระบายได้เดือนละประมาณ 5-6 แสนตัน และคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ปี ถึงจะระบายข้าวออกหมด
รักษาการอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศบอกว่า “ วิธีการระบายข้าวอาจมีการปรับเปลี่ยนบ้าง การขายแบบรัฐต่อรัฐ หรือ g to g ก็ยังคงมีอยู่ แต่จะมีความร่วมมือระหว่างรัฐกับเอกชนมากขึ้น คต. มีนโยบายที่จะจับมือกับเอกชนไปทำตลาดข้าวร่วมกัน ไม่ใช่ไปตัดราคาในท้องตลาด สิ่งสำคัญคือจะทำอย่างไรให้ความเป็นผู้นำด้านการส่งออกกลับมา หลังจากเสียให้เวียดนาม”
ด้านสถานการณ์ข้าวในครึ่งปีหลัง รักษาการอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศมองว่าจากสถานการณ์เอลนิโญ จะทำให้หลายประเทศขาดแคลนข้าว จึงเป็นโอกาสของไทย โดยใน 2-3 เดือนนี้มีโอกาสขายออกไปได้บางส่วน ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างตรวจสต๊อกสภาพข้าวที่มีอยู่จริง ซึ่งขณะนี้ได้ตรวจไปแล้วกว่าครึ่ง ยอดข้าวเสียมีไม่ถึง 20%
หนึ่งในนโยบายที่สำคัญในการระบายสต๊อกข้าวครั้งนี้ จะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อย และธุรกิจอื่น อาทิ อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ที่สามารถใช้ประโยชน์กับข้าวสามารถเข้ามาประมูลในลักษณะการซื้อยกกอง ไม่จำเป็นต้องซื้อยกโกดัง และกรมฯจะพิจารณาราคาการซื้อขายจากมาตรฐานข้าวที่มีสภาพอยู่จริง
กรมการค้าต่างประเทศคาดการณ์ว่ายอดการส่งออกข้าวตลอดทั้งปีน่าจะอยู่ที่ 10 ล้านตัน เพราะครึ่งปีแรกของปี 2557 ไทยส่งข้าวออก 5.35 ล้านตัน มูลค่า 2,700 ล้านเหรียญสหรัฐ สูงขึ้นจากปีที่ผ่านมา 50%