หยุดยาววันแม่’57 คาดเม็ดเงินสะพัดสู่ร้านอาหาร 1,120 ล้านบาท


ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงประมาณการค่าใช้จ่ายในการรับประทานอาหารนอกบ้านของคนกรุงเทพฯในช่วงเทศกาลวันแม่ระหว่างวันที่ 9 – 12 สิงหาคม 2557 ว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดสู่ธุรกิจร้านอาหารประมาณ 1,120 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 12 จากในช่วงเทศกาลวันแม่ปี 2556

 

หลังจากที่ภาพรวมของธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยเผชิญภาวะการเติบโตอย่างชะลอตัวลงมาตั้งแต่ต้นปี ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่มีความซบเซา สอดคล้องกับผลประกอบการของกลุ่มธุรกิจร้านอาหารที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีการเติบโตของรายได้ในไตรมาสแรกของปี 2557 เฉลี่ยร้อยละ 6 (YoY) ซึ่งเป็นการเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลงจากในไตรมาสแรกของปี 2556 ที่มีการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 16 (YoY) อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 นี้ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจน่าจะเริ่มมีการฟื้นตัว ประกอบกับมีเทศกาลสำคัญต่างๆท่ามกลางบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง ที่ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยและรับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น จึงเป็นโอกาสอันดีที่ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารจะเร่งจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นรายได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2557

สำหรับในช่วงเทศกาลวันแม่ปี 2557 ซึ่งมีระยะเวลาหยุดยาวติดต่อกันถึงสี่วันนี้ เป็นหนึ่งในโอกาสทองที่ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารจะสามารถจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นการรับประทานอาหารนอกบ้านในรูปแบบต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น การมอบส่วนลดเมื่อพาคุณแม่มารับประทานอาหารที่ร้านอาหาร การจัดเมนูอาหารพิเศษเฉพาะในช่วงเทศกาลวันแม่ การมอบขนมหวานสำหรับคุณแม่หลังมื้ออาหารฟรี การมอบชุดของขวัญพิเศษสำหรับคุณแม่ บริการถ่ายภาพครอบครัวฟรี การจัดโปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิต เป็นต้น ซึ่งคาดว่ากิจกรรมในรูปแบบต่างๆนี้ จะช่วยกระตุ้นให้ผู้คนเลือกรับประทานอาหารนอกบ้านได้มากขึ้น

                ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ประมาณการค่าใช้จ่ายในการรับประทานอาหารนอกบ้านของคนกรุงเทพฯในช่วงเทศกาลวันแม่ระหว่างวันที่ 9 – 12 สิงหาคม 2557 ว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดสู่ธุรกิจร้านอาหารประมาณ 1,120 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 12 จากในช่วงเทศกาลวันแม่ปี 2556 ซึ่งมีเม็ดเงินสะพัดสู่ธุรกิจร้านอาหารประมาณ 1,000 ล้านบาท จากปัจจัยด้านงบประมาณสำหรับการรับประทานอาหารนอกบ้านเฉลี่ยต่อคนต่อมื้อของคนกรุงเทพฯที่เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วที่เป็นผลมาจากภาวะค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นในปัจจุบัน ประกอบกับเทศกาลวันแม่ปี 2557 นี้ มีระยะเวลาหยุดยาวติดต่อกันถึงสี่วัน ที่ช่วยกระตุ้นให้คนกรุงเทพฯออกมารับประทานอาหารนอกบ้านกันมากยิ่งขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ธุรกิจร้านอาหารมีความคึกคักมากขึ้น

                ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า คนกรุงเทพฯจะออกมารับประทานอาหารนอกบ้านอย่างหนาแน่น และส่งผลให้มูลค่าการใช้จ่ายในการรับประทานอาหารนอกบ้านของคนกรุงเทพฯสะพัดสูงสุดในวันที่ 12 สิงหาคม 2557 ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารต่างแข่งขันเพื่อช่วงชิงลูกค้ากลุ่มครอบครัวในรูปแบบต่างๆ ในขณะที่ขีดความสามารถในการให้บริการของร้านอาหารแต่ละร้านเป็นไปอย่างจำกัด ส่งผลให้ผู้ประกอบการอาจให้บริการลูกค้าได้อย่างไม่ทั่วถึงและสูญเสียโอกาสในการสร้างรายได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า นอกจากการมุ่งสร้างรายได้ในวันที่ 12 สิงหาคมแล้ว ยังมีช่องว่างในการประกอบธุรกิจที่ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารยังมีโอกาสดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการร้านอาหารในวันอื่นๆที่นอกเหนือจากวันที่ 12 สิงหาคมแทนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การดึงดูดครอบครัวกลุ่มที่มีความกังวลเกี่ยวกับการออกมารับประทานอาหารนอกบ้านในวันที่ 12 สิงหาคม ทั้งในด้านความหนาแน่นของลูกค้าที่มาใช้บริการร้านอาหาร การเดินทางที่ไม่สะดวก รวมถึงการจราจรที่ติดขัด ให้ออกมารับประทานอาหารนอกบ้านในช่วงวันอื่นๆที่ไม่ใช่วันที่ 12 สิงหาคมทดแทน เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึง และสามารถสร้างรายได้ตลอดช่วงเทศกาลวันแม่ได้อย่างเต็มที่

                นอกจากนี้ แม้ว่าภาวะค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นจะส่งผลให้คนกรุงเทพฯมีค่าใช้จ่ายในการรับประทานอาหารนอกบ้านเพิ่มสูงขึ้น แต่การรับประทานอาหารนอกบ้านในช่วงเทศกาลวันแม่เป็นกิจกรรมที่สมาชิกในครอบครัวใช้เวลารับประทานอาหารในมื้อที่สำคัญร่วมกัน แตกต่างจากเทศกาลอื่นๆที่ผู้คนมักจะรับประทานกับบุคคลหลากหลายกลุ่มในหลากหลายมื้ออาหาร เช่น เพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงาน เป็นต้น ซึ่งในช่วงเทศกาลวันแม่นี้ สมาชิกในครอบครัวย่อมให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารในมื้อสำคัญดังกล่าว ดังจะเห็นได้จากการที่คนกรุงเทพฯส่วนใหญ่ยังไม่ลดงบประมาณสำหรับการรับประทานอาหารนอกบ้านในช่วงเทศกาลวันแม่ลง เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วแม้ว่าภาวะค่าครองชีพมีแนวโน้มสูงขึ้นก็ตาม

                ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในช่วงเทศกาลวันแม่ปี 2557 นี้ ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารสามารถหลีกเลี่ยงการใช้กลยุทธ์การตัดราคา ท่ามกลางภาวะต้นทุนการประกอบธุรกิจที่สูงขึ้น เช่น วัตถุดิบ พลังงาน แรงงาน ค่าเช่าสถานที่ เป็นต้น ซึ่งจะยิ่งบีบคั้นให้กำไรของธุรกิจลดลงได้ หากแต่ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารควรมุ่งสร้างความประทับใจสำหรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในช่วงเทศกาลวันแม่ในด้านต่างๆแทนเช่น รสชาติอาหาร ความหลากหลายของอาหาร ความสะดวกในการเดินทาง การให้บริการ เป็นต้น เพื่อจะนำมาสู่การดึงดูดให้ลูกค้ามาใช้บริการซ้ำในอนาคต ทั้งการรับประทานอาหารนอกบ้านในชีวิตประจำวัน และในมื้ออาหารที่เป็นวาระสำคัญต่างๆ ซึ่งจากผลสำรวจได้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า สำหรับคนกรุงเทพฯแล้ว ปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อการตัดสินใจเลือกร้านอาหารในลำดับต้นๆไม่น้อยไปกว่าปัจจัยด้านราคา