มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกคนหนึ่งกล่าวว่า “ไม่ใช่ความผิดของคุณที่เกิดมาจน แต่ถ้าคุณตายจน เป็นความผิดของคุณเอง” คนที่พูดนี้คือ บิล เกตส์ เจ้าของบริษัทไมโครซอฟท์ที่มีมูลค่าทรัพย์สินหลายล้าน ๆ เหรียญและวันนี้เขาและภรรยา เมลินด้า เกตส์เป็นนักทำบุญทำกุศลอันดับหนึ่งของโลก เรียกว่า ยิ่งรวยยิ่งแบ่งปัน ไม่เหมือนมหาเศรษฐีส่วนใหญ่ที่ยิ่งรวยยิ่งขี้เหนียว ยิ่งงก ยิ่งกอบโกย
จนถึงวันนี้ บิล กับ เมลินด้า เกตส์ ทำบุญไปแล้วไม่ต่ำกว่า ๒๘,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐหรือเกือบครึ่งหนึ่งของทรัพย์สินของเขาในปัจจุบัน (๖๖,๐๐๐ ล้านดอลล่าร์) และมูลนิธิของเขาจะบริจาคเพื่อองค์การกุศลทั่วโลกไม่น้อยกว่า ๑๐๐,๐๐๐ ล้านบาททุกปี
บิล เกตส์ไม่ได้เกิดมาจน แต่ก็ไม่ได้เกิดมารวย เขาเกิดในครอบครัวของคนอเมริกันชั้นกลาง แต่เป็นคนที่มีความมุมานะเป็นเลิศ มีจินตนาการสูง มาตั้งแต่เด็ก เป็นนักบุกเบิกเรื่องซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์ที่ยุคนั้นไม่มีใครเข้าใจว่า วันหนึ่งจะกลายเป็นธุรกิจแสนล้านได้อย่างไร
เขามุ่งมั่นที่จะต้องเป็นเลิศในวงการคอมพิวเตอร์ตั้งแต่เขายังเป็นนักเรียน สนใจ รักฝึกทำธุรกิจคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ เป็นลูกจ้างคิดโปรแกรมไปขายให้บริษัทยักษ์ใหญ่ขายคอมพิวเตอร์อันดับหนึ่งของโลกคือ ไอบีเอ็ม และมีความเชื่อมั่นว่าวันหนึ่งเขาจะเลิกเป็นลูกจ้างและธุรกิจเขาจะยิ่งใหญ่ร่ำรวยที่สุดในโลกยิ่งกว่าไอบีเอ็ม ขณะที่ไอบีเอ็มมุ่งขายเครื่องคอมพิวเตอร์แต่บิล เกตส์มุ่งขายซอฟท์แวร์ หรือ ไอเดีย
เขาเป็นนักเรียนเรียนหัวดี สอบเข้ามหาวิทยาลัยดังที่สุดในอเมริกาได้ คือ ฮาร์วาร์ด แต่สุดท้ายก็เรียนไม่จบเพราะมัวแต่มุ่งคิดซอฟท์แวร์ขายหาเงิน เขาเริ่มต้นทำธุรกิจเป็น SME เล็ก ๆ ทำงานที่บ้าน สองคนกับเพื่อนคู่หู พอล อัลเลน ที่ใคร ๆ ก็ดูถูกว่าเป็นธุรกิจกิ๊กก๊อก แม้พ่อแม่ก็ไม่รู้ว่าลูกกับเพื่อนทำอะไรกันทั้งวันทั้งคืน เพราะหนีเรียนจนมหาวิทยาลัยคาดโทษและรำคาญ และในที่สุดก็ลาออกและไปทำธุรกิจในความฝันของเขาซึ่งยุคนั้นไม่มีใครเข้าใจแม้พ่อแม่และเพื่อนบ้านของเขาเองรวมถึงครูด้วย
วันนี้ บิล เกตส์กลายเป็นอัศวินแห่งคลื่นลูกที่สาม เมื่อโลกทั้งโลกสยบแทบเท้าเขา ธุรกิจของเขาจากไอเดียเล็ก ๆ ในวัยเด็ก กลายเป็นหม้อข้าวกายสิทธิ์ กลายเป็นอภิมหาอาณาจักรติดอันดับบริษัทที่ร่ำรวยที่สุดในสหรัฐอเมริกาและอันดับโลกติดต่อกันหลายปี
ทุกครั้งที่เขาบรรยายเพื่อปลุกกำลังใจให้คนรุ่นหลัง เด็กในมหาวิทยาลัย เพื่อสร้างความบันดาลใจให้สู้ชีวิต จะมีคนฟังอย่างแน่นขนัด เขามีเคล็ดลับในการต่อสู้ชีวิตและชี้ช่องรวยที่ง่าย ๆ น่าสนใจ คือ
- หากคุณต้องการความรวย จงทำให้คนอื่นรวยก่อน
- หากคุณเคยผิดพลาด เรียนรู้จากมันแล้วไม่ทำผิดพลาดซ้ำอีก
- หากคุณยังพึ่งพาแต่คนอื่น ไม่พึ่งตนเอง ก็ไม่มีทางที่จะเรียนรู้และพบความสำเร็จ
- โลกไม่สนใจว่าคุณจะมั่นใจตนเองแค่ไหน แต่โลกนี้คาดหวัง “ความสำเร็จ” ที่เกิดจากความมั่นใจของคุณต่างหาก
- ชีวิตนี้ไม่มีความยุติธรรมหรอก ทำใจเสียเถอะ
- ชีวิตในโรงเรียน ไม่เหมือนชีวิตจริง โหดกว่าเยอะ
- ความสำเร็จล่อให้เราหลงผิด คิดว่าเราไม่มีวันล้มเหลว
บิล เกตส์ เกิดในปี ๑๙๕๕ ปีเดียวกับ สตี๊ฟ จ๊อฟส์ รุ่นราวคราวเดียวกันและเป็นคู่แข่งกันกลาย ๆ สตี๊ฟ เกิดในครอบครัวที่ลำบาก พ่อแม่ทิ้งตั้งแต่เด็ก แต่สุดท้ายก็ประสบความสำเร็จทั้งคู่ บิล เกตส์ประสบความสำเร็จเร็วกว่า รวยเร็วกว่า เพราะมุ่งพัฒนาซอฟท์แวร์ จนดังระเบิดโลก ในปี ๑๙๘๔ สตีฟ จ๊อบส์ อายุ ๒๙ เพิ่งจะวางตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนตัวที่เล็กกะทัดรัด คือ แม็คคินทอช แต่สุดท้ายทั้งสองก็กลายเป็นอภิมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยทั้งคู่ วันนี้สตีฟ จ๊อบส์เสียชีวิตไปแล้วทิ้งชื่อเสียงที่โด่งดัง และความร่ำรวยกับธุรกิจ แมค, ไอโฟน, ไอแพด ฯลฯ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีประวัติส่วนไหนว่าเขาทำบุญอะไร
แต่บิล เกตส์วันนี้ยังมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขและกลายเป็นมหาเศรษฐีใจบุญที่สุดในโลก จากความร่ำรวยที่เขาสร้างด้วยตนเองโดยที่พ่อแม่ไม่ต้องช่วย ไม่ได้ให้มรดกอะไร ยกเว้นสมองที่อัจฉริยะ และคำพูดอมตะ “ไม่ใช่ความผิดของคุณที่เกิดมาจน แต่ถ้าคุณตายจน เป็นความผิดของคุณ”
อ.มานิต รัตนสุวรรณ ประธานสถาบันการตลาดเพื่อสังคมแห่งประเทศไทย