โรงแรมรีเจ้นท์ ชะอำ บีช รีสอร์ท ได้จัดตั้งโรงเรียนการโรงแรมและท่องเที่ยว รีเจ้นท์ ชะอำ เพื่อรองรับการธุรกิจท่องเที่ยวที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว และพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางความรู้ด้านการโรงแรมในอาเซียน โดยเน้นสร้างคนที่พร้อมปฏิบัติงานจริงด้วยหลักสูตรเพียง 9 เดือน
นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มโรงแรมรีเจ้น ชะอำ บีช รีสอร์ท กล่าวว่า จากตัวเลขของ WNTO รายได้การท่องเที่ยวของประเทศไทย ปัจจุบันอยู่ที่อันดับ 7 ของโลก โดยมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทยเป็นอันดับ 4 ของโลกและคาดว่าในปีนี้นักท่องเที่ยวจะเข้ามาราว 26.7 ล้านคน อาจกล่าวได้ว่าปัจจุบันการท่องเที่ยวเป็น 10% ของ GDP ทั้งประเทศ เท่ากับการส่งออก ข้าว อ้อย และมันสำปะหลัง
แม้ว่าในปีนี้เราประสบปัญหาทางการเมืองทำให้นักท่องเที่ยวหายไปประมาณ 10% ซึ่งสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้พยายามประคับประคอง โดยเสนอลดค่าธรรมเนียมวีซ่าให้กับจีนเพื่อช่วยให้นักท่องเที่ยวปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนตลาดยุโรปคาดจะมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นในไม่ช้า และในส่วนตลาดไทยสภาท่องเที่ยวได้เสนอให้มีการลดหย่อนเงินได้บุคคลธรรมดาถึง 20,000 บาท
จากเหตุผลดังกล่าวจะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว ยังคงเป็นอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ ส่งผลให้บุคลากรด้านการโรงแรมมีความสำคัญมาก และขณะนี้อยู่ในภาวะขาดแคลนพนักงานที่มีประสบการณ์และมีความสามารถ ส่งผลให้กลุ่มโรงแรม รีเจ้นท์ ชะอำ บีช รีสอร์ทเห็นถึงโอกาส จึงได้จัดตั้งโรงเรียนการโรงแรมและท่องเที่ยว รีเจ้นท์ ชะอำ ขึ้นเพื่อตอบสนองตลาดแรงงานดังกล่าว
นาง ปิยะมาน กล่าวว่า “ปัจจุบันธุรกิจท่องเที่ยวขาดแคลนบุคลากรที่มีความสามารถในระดับปฏิบัติการ เพราะการเรียนที่ผ่านมามักจะเน้นในเรื่องความรู้ที่เป็นวิชาการแต่ขาดการฝึกปฏิบัติ ส่งผลให้ผู้ประกอบการเมื่อรับบุคลากรเข้ามาจะต้องเสียเวลาสอนให้ปฏิบัติงานได้จริงค่อนข้างมาก โรงแรมรีเจ้น ชะอำ จึงจัดตั้งโรงเรียนที่มีการสอนในลักษณะปฏิบัติการพร้อมทำงาน โดยเป็นหลักสูตรในระยะสั้น ครอบคลุมระยะเวลาเพียง 9 เดือน สามารถปฏิบัติงานและประกอบอาชีพได้ทันที ซึ่งอาชีพนี้เป็นอาชีพที่มีความมั่นคง เหมาะกับวัฒนธรรมของคนไทยในเรื่องการให้บริการ ส่วนค่าตอบแทนจะเทียบเท่าปริญญาตรี ในขณะที่ปริญญาตรีต้องใช้เวลาเรียนถึง 4 ปี จึงคาดหวังไว้ว่าโรงเรียนการโรงแรม รีเจ้น ชะอำจะเป็นทางเลือกสำหรับนักเรียน ม.6 ที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงาน ที่สำคัญเนื่องจากปีนี้เศรษฐกิจไม่ดีนักบุคลากรมีแนวโน้มที่จะตกงานเป็นจำนวนมาก นี่อาจเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับบัณฑิตจากที่ต่างๆ เข้ามาเรียนรู้เพื่อจะได้ตัดสินใจเลือกทางในการประกอบอาชีพต่อไปนอกเหนือจากการรองานทำ “
จุดเด่นของหลักสูตรเน้นสอนให้เกิดความชำนาญงานด้านปฏิบัติการจริง โดยมุ่งเน้นการเรียนการสอนทั้งทางภาคทฤษฎีและปฏิบัติมาควบคู่กัน และหลักสูตรดังกล่าวมีมาตรฐานที่กระทรวงศึกษาธิการยอมรับ เรียนจบแล้วสามารถไปเรียนต่อยังหลักสูตรของสถาบันในออสเตรเรียได้ นอกจากนี้ยังสามารถไปสอบเทียบวิทยฐานะของใบประกาศประชาคมอาเซียนได้ด้วย
โรงเรียนการโรงแรมและท่องเที่ยว รีเจ้นท์ ชะอำ เปิดการเรียนการสอนในมาตรฐาน 9 เดือน จากคณาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เป็นการเรียนทางทฤษฎีเป็นเวลา 6 เดือน และส่งฝึกงานในโรงแรมระดับมาตรฐานภาคสนามเป็นเวลา 3 เดือน เรียนสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 7 ชั่วโมง หลักสูตรที่เปิดประกอบด้วย 4 หลักสูตรหลักคือ 1.หลักสูตรการบริการส่วนหน้า (Front Office) มีค่าเล่าเรียน 83,000 บาท 2.หลักสูตรการบริการอาหารและเครื่องดื่ม (Food and Beverage Service) มีค่าเล่าเรียน 98,000 บาท 3.หลักสูตรแม่บ้านการโรงแรม ( Housekeeping) มีค่าเล่าเรียน 83,000 บาท และ 4.หลักสูตรการประกอบอาหาร (Food Production) มีค่าเล่าเรียน 98,000 บาท ค่าเล่าเรียนดังกล่าวได้รวมค่าห้องพัก ค่าอุปกรณ์และชุดนักเรียนเรียบร้อยแล้ว หลักสูตรที่เรียน เมื่อจบแล้ววุฒิบัตรที่ได้รับเป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงศึกษาธิการ ส่วนเงินเดือนที่จะได้รับเทียบเท่ากับปริญญาตรี
ด้านแผนการดำเนินงานของโรงเรียน ในแต่ละหลักสูตรจะเปิดสอนไม่เกิน 30 คน โดยเปิดสอนปีละ 2 รุ่น คาดว่าหลังจากเปิดดำเนินการแล้ว 1 ปี สามารถเปิดหลักสูตรที่เป็นภาษาอังกฤษ และเมื่อดำเนินการครบ 3ปี ก็จะสามารถเปิดหลักสูตรนานาชาติต่อไป นอกจากนี้ยังเล็งเห็นว่าปัจจุบันจำนวนผู้สูงอายุมีมากขึ้น การบริการอาจจะต้องมีความรู้พื้นฐานทางด้านการบริการและการแพทย์ อีกทั้งภาคธุรกิจโรงแรมยังขาดแคลนช่างอิเล็คทรอนิคสำหรับโรงแรมและคอนโดซึ่งจะทำงานไม่เหมือนช่างทั่วไป คาดว่าจะเปิดหลักสูตรสำหรับการให้บริการผู้สูงอายุ และช่างอิเล็คทรอนิคสำหรับโรงแรมต่อไป