ปัญหาของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีส่วนหนึ่ง คือ แรงงาน เอ่อ…เกือบลืมสวัสดีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและท่านผู้สนใจเรื่องกฎหมายทุกท่าน ท่านทั้งหลายครับปัญหาของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีมากจริงๆครับ ผมจะทยอยเขียนให้ท่านได้เข้าใจและได้ระมัดระวังไว้ไม่ต้องไม่ซื้อประสบการณ์ด้วยราคาแพง ดังที่ได้เรียนมาเมื่อฉบับที่แล้วครับ กิจการเอสเอ็มอีหากว่าดำเนินกิจการไปผิดพลาดแล้วโดยเฉพาะเรื่องกฎหมายมักจะแก้ไม่ได้เกือบทุกเรื่องจนมีอันต้องล้มเลิกกิจการไป
ฉบับนี้ผมขอนำเรื่องปัญหาจริงที่เกิดกับผู้ประกอบการแล้วทำให้กิจการย่ำแย่ไป มีลูกความของผมรายหนึ่งอยู่แถวๆบางบอน กรุงเทพนี้เอายุยังน้อย ประกอบกิจการผลิตปุ๋ย จำหน่ายยาปราบวัชพืช ศัตรูพืช อื่นๆจำพวกเคมีภัณฑ์ทางเกษตร ตอนเริ่มกิจการใหม่ประมาณ 3 เดือนแรก เจ้าของกิจการเองเป็นผู้ทำหน้าที่เป็นเซลเดินสายขายสินค้าด้วยตนเองปรากฏว่าขายสินค้าได้ดี มียอดจำหน่ายสินค้ามากมายทีเดียวจนกระทั่งผลิตปุ๋ยและจัดจำหน่ายไม่ทันใจลูกค้า หลังจากนั้นเดือนที่ 4 เจ้าของกิจการจึงจ้างเซลแมนให้ไปขายสินค้าให้โดยมอบหมายให้ทั้งส่งสินค้าและเก็บเงินค่าสินค้าด้วย ปรากฏว่าทางร้านขายสินค้าได้เป็นจำนวนมากจนกระทั่งเกือบ 1 ปีผ่านไป สินค้าที่ขายไปไม่สามารถเก็บเงินได้จนกระทั่งความถึงทราบว่า เซลแมนลูกจ้างเก็บเงินค่าสินค้าแล้วไม่ส่งแก่ทางร้านหลังจากตรวจสอบทางบัญชีพบว่าเซลได้ยักยอกเงินค่าสินค้าไปเป็นจำนวนหลายครั้งหลายรายการคิดเป็นเงินได้ประมาณ 1,400,000 บาท มีใบส่งของเกือบหนึ่งร้อยฉบับทีเดียว ทางเจ้าของกิจการจึงได้เรียกเซลแมนคนนั้นมาให้ชดใช้เงินคืนแต่เซลแมนไม่มีเงินคืนเงินให้ ทางเจ้าของกิจการจึงได้ให้มีการทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้โดยระบุว่าได้รับเงินค่าสินค้าไปตามใบส่งของจำนวนกี่ฉบับ และระบุว่าจะชำระเงินให้แก่ทางร้านภายในเวลา 3 เดือน หลังจากครบกำหนดเวลาแล้วทางร้านก็ไม่ได้รับเงินคืนแต่อย่างใด ตอนปัจจุบันนี้เจ้าของกิจการต้องไปกู้หนี้มาชำระเงินค่าสินค้าที่ได้เครดิตไว้เป็นจำนวนมากทำให้กิจการจวนเจียนอยู่หรือไปเป็นต้น
วิธีการแก้ไขคือต้องดำเนินคดีอาญาเอากับเซลแมนตัวแสบนี้ให้ได้ แต่เมื่อตรวจสอบข้อกฎหมายจะพบว่า การที่เซลแมนรายนี้ยินยอมเจรจาและทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้ไว้ว่าจะชำระค่าสินค้าที่ยักยอกไปให้เสร็จสิ้นภายในกำหนดเวลา 3 เดือนนั้นเป็นการถ่วงเวลาไว้ให้คดีอาญาหมดอายุความ กล่าวคือ ในคดีอาญาข้อหายักยอกทรัพย์นี้จะมีอายุ 3 เดือนนับวันที่ผู้เสียหายรู้ว่าตนถูกยักยอกเงินและรู้ตัวผู้กระทำความผิด คดีนี้อายุความคดีอาญาจึงเริ่มนับตั้งแต่วันทำหนังสือรับสภาพหนี้ หนี้ตามหนังสือรับสภาพหนี้ที่ทำไว้จึงขาดอายุความ ส่วนความแพ่งอายุความ 1 ปี ตามมูลละเมิด หากเราสามารถดำเนินคดีอาญาได้อายุความคดีแพ่งก็จะยาวขึ้นตามคดีอาญา ส่วนใหญ่เจ้าของกิจการมักเห็นว่าเมื่อเซลรับแล้วว่า ยักยอกเงินไปและจะคืนเงินให้ไม่เกิน 3 เดือนก็จะตายใจไม่ไปแจ้งความดำเนินคดี
อย่างไรก็ดีต้องดำเนินคดีอาญาให้ได้ ดังนั้นเราต้องไปตรวจสอบใหม่ว่ามีใบส่งของฉบับใดบ้างที่ยังไม่ได้ระบุไว้ในหนังสือรับสภาพหนี้ เมื่อพบแล้วให้ว่าจ้างทนายความฟ้องเซลแมนด้วยตนเอง ผมย้ำว่าต้องหาให้ได้หากเซลแมนคนนั้นยอมติดคุกให้มันรู้ไป ส่วนใหญ่มักกลัวและต้องหาเงินมาชำระหนี้ให้ และเซลหาเงินยังไม่ได้ก็ให้เจรจาหาหลักทรัพย์มาวางเพื่อค้ำประกันการชำระหนี้ หรือบุคคลธรรมดาก็ได้ความเสียหายที่เกิดขึ้นจะลดลงไป
ขอส่งท้ายอีกเรื่องหากเกิดกรณีเราส่งของแล้วร้านค้าที่เราส่งของปิดร้านหนีหนี้อย่างนี้ก็มีให้เห็นมากมาย คุณต้องเสียเวลาให้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจที่ร้านนั้นๆตั้งอยู่ข้อหาฉ้อโกง อายุความเรื่องนี้ก็ 3 เดือนเหมือนกัน
ขอให้พิจารณาเรื่องเครดิตให้ดีนะครับ ในยุคปัจจุบันนี้กฎหมายหากไม่เจอเข้าเต็มๆไม่มีใครกลัวกันหรอกครับ ดูเรื่องเสาไฟฟ้าแรงสูง หรือเรื่องขโมยตัดพืชผลทางการเกษตรก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ เรื่องที่ผมนำเสนอฉบับนี้มีเพียงเท่านี้เรื่องอาจจะดูไม่สร้างสรรค์ซักเท่าไร แต่เชื่อผมนะครับระมัดระวังไว้ให้ดีเรื่องกฎหมายทำจนกันไปหลายรายแล้วทีเดียว