แนวโน้มตลาดเสื้อผ้ามือ 2 เน้นการเข้าถึงผู้บริโภคด้วยราคาประหยัด


ในปัจจุบันนี้เสื้อผ้ามือ 2 นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่กำลังมาแรงในท้องตลาด เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันทำให้ผู้บริโภคต้องมีการประหยัดค่าใช้จ่ายอยู่ตลอดเวลา  ทำให้เสื้อผ้ามือ 2 กลายเป็นสินค้าที่ฮิตติดตลาดเพราะราคาถูกกว่าของใหม่กว่าครึ่ง และในบางครั้งก็อาจจะได้สินค้าแบรนด์เนมราคาหลายพันบาทกลับมาด้วยก็ได้

                หากมองจากตลาดของเสื้อผ้ามือ 2 ในขณะนี้  จะพบว่ามีการขยายตัวของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก  เนื่องจากมีต้นทุนที่ไม่สูงมาก  ทำให้มีผู้ประกอบการเริ่มต้นที่ขายเสื้อผ้ามือ 2 เพิ่มมากขึ้น   ซึ่งมักจะเห็นได้ตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ที่จะมีผู้ประกอบการนำเสื้อผ้ามือ 2 มาจำหน่าย  รวมไปถึงตลาดนัดสะพานพุทธ  ซึ่งถือได้ว่าเป็นแหล่งขายเสื่อผ้ามือ 2 ชื่อดังในกรุงเทพอีกแห่งหนึ่ง  ทีนับว่าเป็นเหล่งของคนที่ชอบเสื้อผ้ามือ 2 จะต้องรู้จักกันเป็น        อย่างดี  เพราะเสื้อผ้ามือ 2 จะมีจุดเด่นอยู่ที่ราคาถูกและไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจในช่วงนั้นๆจะเป็นอย่างไร   ผู้บริโภคก็ยังมีความต้องการที่จะซื้อเสื้อผ้าอย่างต่อเนื่อง  หรือหากช่วงไหนเศรษฐกิจดีกำลังซื้อของผู้บริโภคก็จะมีมากขึ้น  โดยจะเห็นได้จากการซื้อสินค้ามากขึ้นจากเดิมของผู้บริโภค  เช่นถ้าช่วงไหนเศรษฐกิจดีผู้บริโภคอาจจะซื้อเสื้อผ้า 2 – 3 ตัว จากเดิมที่ซื้อเพียงตัวเดียวเท่านั้น  ทำให้ภาพรวมของตลาดเสื้อผ้ามือ 2 ในขณะนี้ถือว่าอยู่ในช่วงที่กำลังเติบโตขึ้นไปได้เรื่อยๆ

                คุณณัฐณิชา  มูลพฤกษ์   ผู้ประกอบการร้านเสื้อผ้ามือ 2 ย่านสยามสแคว ได้เล่าว่า “เปิดร้านขายเสื้อผ้ามือ 2 มากว่า 10 ปีแล้ว  ที่ผ่านมาก็จะพบเห็นการเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งเกี่ยวกับธุรกิจเสื้อผ้ามือ 2 อยู่หลายเรื่อง  ตั้งแต่ในเรื่องของรายได้ถือว่ามีการปรับตัวสูงขึ้นของราคาในการขาย เมื่อเทียบกับเมือ 10 ปีก่อน  ที่เริ่มทำใหม่ๆ  ซึ่งมันเป็นผลมาจากราคาของสินค้าที่ซื้อมามีราคาสูงขึ้นบวกกับค่าใช้จ่ายในการขนส่งก็สูงกว่าเมื่อก่อน  เลยต้องปรับราคาในการขายเพิ่มขึ้นไปด้วย  รวมทั้งในเรื่องของปัญหาเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ก็ถือว่ามีผลอย่างมาก  เพราะเมื่อช่วงที่มีกรประท้วงในแต่ละครั้ง  มักจะทำให้รายได้ลงลงไปด้วย  เนื่องจากผู้บริโภคไม่มั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยทำให้ไม่กล้าที่จะมาซื้อสินค้าในบริเวณที่ร้านตั้งอยู่  แล้วลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นกลุ่มวัยรุ่นไปจนถึงคนทั่วไปที่ชอบเสื้อผ้าแนววินเทจ ที่จะเป็นกลุ่มที่เลือกจับจ่ายเสื้อผ้ามือ 2 แต่”พฤติกรรมของกลุ่มผู้บริโภคที่สนใจซื้อเสื้อผ้ามือ 2 นั้น  เป็นเพียงกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น  เพราะหากเป็นในกลุ่มที่ไม่ชอบจะแสดงออกว่ารังเกียจหรือไม่ก็ลองดมดู”  นี่คือสิ่งที่คุณณัฐณิชาสังเกตเห็น

 แต่หากมองถึงภาพรวมการเติบโตนั้นทางคุณณัฐณิชามองว่าในอนาคตธุรกิจการจำหน่ายเสื้อผ้ามือ 2 จะสามารถขยายตัวไปได้อีกมาก  เพราะในปัจจุบันนี้มีช่องทางในการจำหน่ายที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเฟสบุ๊คหรืออินสตราแกรม  ที่จะพบเห็นมีผู้จำหน่ายในช่องทางเหล่านี้เป็นจำนวนมาก  โดยที่ไม่ต้องเปิดหน้าร้านเลย  แต่นี่กลับเป็นปัญหาสำหรับผู้ที่เปิดหน้าร้าน  เพราะ”ทุกวันนี้ช่องทางการจำหน่ายมีเพิ่มมากขึ้น  โดยผู้บริโภคบางส่วนอาจจะให้ความสนใจซื้อผ่านทางออนไลน์แทน  ทำให้รายได้ของคนที่เปิดขายหน้าร้านลดลง”  นี่คือสิ่งที่คุณณัฐณิชา  ได้พบเจอมาตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจขายเสื้อผ้ามือ 2  มาไม่ต่ำกว่า 10 ปี

                จากข้อมูลของสำนักยุทธศาตร์และนโยบายการลงทุนพบว่าตลาดโรงเกลือ เป็นแหล่งรวมสินค้ามือ 2 ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งภายในจะประกอบไปด้วยร้านค้ากว่า 3,000 ร้าน และในแต่ละวันมีเงินหมุนเวียนมากกว่า 10 ล้านบาท โดยเฉพาสินค้าจำพวกเสื้อผ้า ทั้งของแท้และของเทียมจะมีร้านที่จำหน่ายอยู่เป็นจำนวนมาก เมือคิดเป็นเปอร์เซนต์แล้ว มีมากถึง 80 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว  ทั้งนี้คลังขายส่งเสื้อผ้ามือ 2 แบรนด์เนมรายใหญ่ในกรุงเทพ  บางรายนำเข้าเสื้อผ้ามือ 2 เข้ามาเองจากเมืองกว่างซี   ประเทศจีน ซึ่งมียอดขายสินค้ามือ 2 มากเป็นอันดับ 7 ของประเทศ โดยมีจำนวนการขายสินค้าอยู่ที่ 2.57 แสนชิ้น  รองจากเซี่ยงไฮ้  ปักกิ่ง  เจ้อเจียง  เทียนจิน  เจียงซู  และกวางตุ้ง และเสื้อผ้าสตรีจะเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด  โดยสินค้าที่ประกาศขายทุก 100 ชิ้น จะเป็นเสื่อผ้าสตรีอยู่ 24 ชิ้น นอกจากนี้ยังพบอีกว่าประชากรยุค  80  เป็นกลุ่มที่มีการซื้อขายสินค้ามือ 2 มากที่สุด  สินค้าเหล่านี้จะถูกนำเข้ามาโดยตรงแบบไม่ต้องผ่านตลาดโรงเกลือ  ซึ่งจะเป็นจำพวกสินค้าเกรด A เป็นส่วนใหญ่  โดยราคาต้นทุนที่แท้จริงจะอยู่ที่ตัวละไม่เกิน 20 บาท  แต่เมื่อนำมาขายตามร้านขายปลีกแล้วนั้นจะสามารถจำหน่ายได้ในราคา 100 – 200 บาท แต่ก็ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งของร้านด้วย  เพราะถ้าหากอยู่ในย่านเศรษฐกิจหรือตามห้างสรรพสินค้าก็สามารถขายในราคาสูงกว่านี้ได้

                ทางด้านคุณศราวดี  เปียทอง เจ้าของกิจการร้านเสื้อผ้ามือ 2  ในศูนย์การค้าแฮปปี้แลนด์  ได้เล่าถึงสิ่งที่พบเจอตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจขายเสื่อผ้ามือ 2 ว่าขายเสื้อผ้ามือ 2 มา 8 ปีแล้วนั้นว่า “เรื่องของรายได้มีการปรับตัวขึ้นมากเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน  รวมถึงในเรื่องของคุณภาพด้วย ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะแย่กว่านี้  นับว่าในเรื่องของคุณภาพนั้นมีการปรับตัวที่ดีขึ้น โดย “ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนทำงาน เพราะสินค้าของที่นี่ส่วนใหญ่เป็นแบรนด์เนม แต่ราคาไม่แพงเลยทำให้กลุ่มคนทำงานเป็นลูกค้าประจำเยอะ”  ซึ่งก็ยอมรับว่ากระแสสินค้ามือ 2 ทุกวันนี้เพิ่มมากขึ้น  เพราะทุกคนต่างหันมาให้ความสนใจ  อาจเป็นเพราะในเรื่องของราคาที่ถูกกว่าการซื้อของใหม่  แต่คุณภาพก็ใกล้เคียงกัน เลยทำให้ลูกค้าหันมาให้ความสนใจซื้อเสื่อผ้ามือ 2 มากขึ้น  โดย “ส่วนตัวแล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าในอนาคตธุรกิจเสื้อผ้ามือ 2 จะเป็นอย่างไร  แต่คาดหวังว่ามันจะดีขึ้นกว่าปัจจุบันนี้  และทุกวันนี้แหล่งของสินค้าก็มีทั้งจากตลาดโรงเกลือและจากต่างประเทศโดยตรง  ทำให้มีสินค้าที่หลากหลายในการจำหน่าย  ส่วนช่องทางการจำหน่ายก็จะมีเฉพาะขายหน้าร้านเท่านั้น ถ้าทำหลายอย่างกลัวมันจะยุ่งยาก”

                จากการสำรวจพบว่าผู้ที่นิยมซื้อเสื้อผ้ามือ 2 ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 18 -35 ปี และแนวโน้มในเรื่องของการบริโภคเครื่องแต่งกายนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว  จะเห็นได้ว่าสินค้าในปัจจุบันมีความถี่ในการออกมากขึ้น  ซึ่งน่าจะมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความต้องการเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ตามกระแสแฟชั่นและไม่ต้องการซื้อสินค้าในราคาที่สูงมากนัก  ผู้บริโภคในระดับกลางจึงมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น   เพราะทุกวันนี้ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการแต่งกายมากขึ้น 

                ทั้งนี้หลายฝ่ายยังได้มีการคาดการณ์เอาไว้ว่า ในปี 2558 กลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานจะเป็นกลุ่มที่ทีกำลังซื้อมากที่สุด และยังเป็นกลุ่มที่พร้อมสำหรับการเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ทำให้มีการตัดสินใจซื้อสินค้าต่างๆจากสื่อต่างๆและเทคโนโลยีที่เข้ามาเป็นจำนวนมากในปัจจุบัน จึงทำให้สินค้าในกลุ่มเสื้อผ้ามือ 2 มีโอกาสที่จะขยายตัวได้ง่ายขึ้น