จากคำกล่าว “มวยรองก็เป็นแชมป์ได้” หากจะใช้กับคุณ สุรชา ชีพพล เจ้าของบริษัท ซิกม่า ฟูดส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำผลไม้โชคดี ก็คงไม่ผิดนัก เพราะคุณสุรชา เป็นนักวิทยาศาสตร์ด้านอาหารที่ผันตัวมาเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ที่ปลุกปั้นแบรนด์โชคดีให้โดดเด่นในเรื่องความหลากหลายของสินค้า ซึ่งครอบคลุมทุก Segment ของน้ำดื่ม ทั้งน้ำผลไม้ ยัน โอเลี้ยง ชาดำเย็น หรือแม้แต่น้ำตาลสดก็ยังมี
ซึ่งกว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ คุณสุรชาต้องเริ่มจากการทำงานในห้องแล็บที่ต้องคอยวิจัยวัตถุดิบในการผลิตเครื่องดื่มชนิดต่างๆ ซึ่งนั้นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณสุรชามองเห็นโอกาสในตลาด จึงตัดสินใจหันมาผลิตเครื่องดื่ีมเพื่อจำหน่ายเต็มตัว โดยเริ่มจากการเข้าไปติดต่อยี่ปั๊วเพื่อขายสินค้าด้วยตนเอง จนค่อยๆ ขยายไลน์การผลิต ขยายโรงงานผลิตฝาขวด หาพันธมิตรและขยายธุรกิจไปอย่างต่อเนื่อง “ผมทำตัวเหมือนจิ้งจกครับ จิ้งจกในที่นี้คือการที่เราเข้าหาทุกคน ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะวงเหล้า วงทำบุญก็เข้าหาได้หมด และตัวเราเองก็ต้อง มั่นใจว่ามีดีจริง แล้วทุกคนก็จะเข้ามาหาเราด้วยเช่นกัน” ด้วยความกล้าในวันนั้น ทำให้วันนี้ คุณสุรชา เป็นเจ้าของบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มหลายแบรนด์หลากประเภท และยังรับจ้างผลิต (OEM) ที่ได้รับความนิยมในตลาดล่างทั่วประเทศรวมไปถึงตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน กลายเป็นนักธุรกิจร้อยล้านที่กำลังขยายโปรเจคไปสู่หลากหลายธุรกิจอย่างแข็งแกร่ง
และถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ธุรกิจ SME แต่ คุณสุรชา ก็กล้าจะขยายไลน์สินค้าออกมาหลากหลายชนิด “ด้วยการที่ผมเรียนจบและอยู่ในอุตสาหกรรมนี้มานาน จึงค่อนข้างเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในเรื่องการแมตซ์กลิ่นเอง การหาวัตถุดิบที่ช่วยลดต้นทุนเพื่อให้แข่งขันในตลาดได้ ซึ่งสินค้าที่ขายดีที่สุดก็คือ น้ำส้ม ส่วนสินค้าอื่นๆ เราผลิตขึ้นเพื่อเติมเต็มตลาดให้ครบ Segment นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้คู่ค้าเห็นว่าเรามีศักยภาพทั้งการผลิต และเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือด้วย”
แต่ใครก็ตามที่อยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจ SME ก็ต้องผ่านวิกฤตกันมาทั้งนั้น ซึ่ง คุณสุรชา ก็ถือว่าผ่านวิกฤตมาเยอะเหมือนกัน เพราะเทรนด์ตลาดเครื่องดื่มนั้นเปลี่ยนเร็วมาก และยังมีเรื่องของ Packaging ที่ต้องคอยปรับให้ดูทันสมัย แต่ปัญหาจริงๆ เห็นจะเป็นเรื่องการ Stock สินค้า ที่ คุณสุรชา กล่าวไว้ว่า “นี่แทบจะเป็นปัญหาส่วนใหญ่ที่ SME เจอ โดยเราต้อง Stock ทั้งวัตถุดิบและสินค้าพร้อมขายของ และไหนยังมีเรื่องของเศรษฐกิจในประเทศที่ค่อนข้างผันผวน ทำให้เราต้องมีการบริหารจัดการในเรื่องนี้ให้ดีที่สุด และยิ่งการแข่งขันที่สูงขนาดนี้ ถ้าเรากลัวเจ็บก็จะไม่มีทางโตและธุรกิจเราอาจจะตายไปเลยก็ได้”
ด้วยความที่ คุณสุรชา เป็นคนสู้ไม่ถอย และมองหาโอกาสทางธุรกิจอยู่เสมอ เขาจึงตัดสินใจใช้บริการกับกรุงศรี ซึ่งเงินที่ได้มาถึง 3 เท่าก็เพื่อนำมาช่วยเพิ่มสภาพคล่องในการ Stock สินค้าที่เป็นปัญหาใหญ่ของ SME และยังเป็นเงินทุนในการขยับขยายธุรกิจให้โตยิ่งขึ้นทั้งเรื่องตัวสินค้า รวมถึงกำลังการผลิต ที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับโอกาสที่อาจเข้ามาได้ทุกเมื่อ เพราะนี่คือจุดได้เปรียบที่ทำให้ธุรกิจ SME สามารถล้มยักษ์ใหญ่ในวงการได้ “ด้วยการที่เราตัดสินใจและลงมือทำได้รวดเร็ว ไม่อุ้ยอ้ายอย่างบริษัทใหญ่ แต่เราก็ต้องมั่นใจว่าเราเร็วที่สุด ในเวลาที่สั้นที่สุดด้วย แล้วเราจะนำหน้าผู้อื่นอยู่เสมอ”
และในอนาคตคุณสุรชาก็กำลังพิจารณาที่จะกู้เงินเพิ่มในการซื้อเครื่องจักร เพื่อขยับขยายโอกาสทางธุรกิจที่กำลังเข้ามา “ตอนนี้เครื่องดื่มโชคดีจะเน้นไปที่กลุ่ม Local เป็นหลักครับ แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ ผมกำลังจะออกสินค้าตัวใหม่ที่มี Gimmick ต่างออกไปจากตลาด ซึ่งได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในการทำสินค้าเข้าสู่ตลาดใหญ่เต็มตัว เพราะผมมีฝันคือ การพาบริษัทแห่งนี้เข้าตลาดหลักทรัพย์ให้ได้ครับ”
มาทำความรู้จัก กรุงศรี SME ให้คุณ 3 เท่าเพิ่มได้ที่ http://bit.ly/1v7oh54
THANK YOU :