งานก่อสร้างของภาครัฐในโค้งสุดท้ายในปี 2557 มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 4.8 – 8.0 ต่อปี หลังจากที่หดตัวที่ร้อยละ 4.8 ในครึ่งปีแรก สำหรับปี 2558 มีแนวโน้มเป็นโครงการเดิมที่มีความจำเป็นต้องลงทุนต่อเนื่อง ส่วนการลงทุนในโครงการใหม่อาจมีเงินลงทุนกรอบที่จำกัด
ในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 การขับเคลื่อนนโยบายการลงทุนของภาครัฐมีความชัดเจนมากขึ้น บวกกับการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนของภาครัฐภายใต้มาตรการต่าง ๆ มูลค่าการลงทุนในการก่อสร้างของภาครัฐในครึ่งหลังของปี 2557 มีแนวโน้มอยู่ในกรอบ 228,000 – 235,000 ล้านบาท หรือขยายตัวร้อยละ 4.8 – 8.0 ต่อปี จากที่หดตัวร้อยละ 4.8 ในครึ่งปีแรก จากที่มีการเร่งลงทุนในโครงการของรัฐ ภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปี 2557 – 2558 อาจสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนในช่วงที่เหลืออยู่ของปี 2557 จำนวนจำกัด โครงการภาครัฐส่วนใหญ่ที่จะลงทุนในปี 2558 จะเป็นโครงการเดิมที่มีความจำเป็นต้องลงทุนต่อเนื่อง ส่วนการลงทุนในโครงการใหม่อาจมีเงินลงทุนกรอบที่จำกัด
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 ที่ผ่านมา โครงการลงทุนในการก่อสร้างของภาครัฐได้รับผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงในหลายด้าน อาทิ ปัญหาทางการเมือง และสภาพเศรษฐกิจชะลอตัวลง จึงส่งผลให้ก่อสร้างของรัฐชะลอตัวลง ซึ่งสามารถพิจารณาได้จากมูลค่าการลงทุนในการก่อสร้างของภาครัฐในช่วง 6 เดือนแรกในปี 2557 หดตัวลงร้อยละ 4.8 หรือคิดเป็นมูลค่า 202,075 ล้านบาท จากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2556 ขยายตัวถึงร้อยละ 8.7
ทั้งนี้ภายหลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจในไทยให้เติบโตต่อเนื่อง และเพื่อรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 จึงผลักดันให้เกิดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคมเพื่อเชื่อมโยงเส้นทางระหว่างส่วนกลางกับระดับภูมิภาคและกับประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์และเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันทางการค้าและการลงทุนของไทย โดยพิจารณาได้จากการที่รัฐมีให้ความสำคัญในแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคมในระยะเร่งด่วน โดยจะเร่งดำเนินการในปี 2557-2558 ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ.2558-2565 กรอบวงเงินลงทุนเบื้องต้น 2,400,000 ล้านล้านบาท นอกจากนี้ ภาครัฐยังออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปี 2557-2558 จำนวน 5 มาตรการ กรอบวงเงินลงทุนโดยรวม 364,465 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายเร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนของหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ เพื่อใช้ในการซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้างของหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศ และช่วยเหลือทางการเงินให้แก่เกษตรกรชาวนาที่มีรายได้น้อย
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลประจำปี 2557 และ 2558 รวมถึงการเร่งลงทุนในโครงการต่าง ๆ ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ฯและมาตรการฯข้างต้นอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ดี การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปี 2557-2558 อาจมีผลต่อกิจกรรมการก่อสร้างของภาครัฐในช่วงที่เหลืออยู่ของปี 2557 จำนวนจำกัด ดังนั้น มูลค่าการลงทุนในการก่อสร้างของภาครัฐในครึ่งหลังของ ปี 2557 น่าจะอยู่ในกรอบ 228,000 – 235,000 ล้านบาท หรือขยายตัวร้อยละ 4.8 – 8.0 ต่อปี อย่างไรก็ดี มูลค่าการลงทุนในการก่อสร้างของภาครัฐที่หดตัวลงในช่วงครึ่งปีแรกถึงร้อยละ 4.8 ต่อปี จะส่งผลให้มูลค่าการลงทุนในการก่อสร้างของภาครัฐตลอดทั้งปี 2557 มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราไม่สูงนักที่ร้อยละ 0.02 – 1.7
และผลจากมาตรการฯดังกล่าวอาจจะมีผลให้มูลค่าการลงทุนในการก่อสร้างของภาครัฐในปี 2558 ขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2557 ซึ่งเป็นฐานที่ต่ำ ถึงร้อยละ 7.0 – 10.0 หรือคิดเป็นมูลค่า 464,000- 477,000 ล้านบาท
อนึ่ง เม็ดเงินลงทุนจริงในการก่อสร้างของภาครัฐที่จะเกิดขึ้นในช่วงปี 2558 นั้น คาดว่าจะเป็นการก่อสร้างในโครงการเดิมที่ยังมีความจำเป็นต้องลงทุนต่อเนื่องเป็นส่วนใหญ่ และโครงการลงทุนขนาดเล็กที่จะกระจายลงไปในจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ อย่างไรก็ดี กิจกรรมการก่อสร้างของภาครัฐในปีหน้าอาจเริ่มมีเม็ดเงินลงทุนในโครงการใหม่ๆ เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม ช่วง หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา – คลองสิบเก้า – แก่งคอย โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายพัทยา-มาบตาพุด โครงการขยายและปรับปรุงอาคารผู้โดยสารและรันเวย์ ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เฟส 3 และโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่ชายแดนจำนวน 5 ด่านการค้า คือ ด่านแม่สอด จ.ตาก ด่านบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว ด่านคลองใหญ่ จ.ตราด ด่านมุกดาหาร จ.มุกดาหาร และด่านปาดังเบซาร์ จ.สงขลา เป็นต้น แต่ในช่วงระยะแรกของการลงทุนในโครงการใหม่ๆอาจมีมูลค่าการลงทุนในกรอบที่จำกัด ทั้งนี้ โครงการใหม่ๆที่ภาครัฐจะเริ่มลงทุนในปี 2558 ยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตามความคืบหน้าต่อไป ซึ่งขึ้นอยู่กับกระบวนการดำเนินงานและการพิจารณาของภาครัฐ