สสว.เผยนายกฯ มอบนโยบาย ขยายขอบเขตการส่งเสริมเอสเอ็มอี กลุ่มภาคเกษตร เพื่อช่วยเหลือได้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น พร้อมเล็งมอบสิทธิพิเศษแก่เอสเอ็มอี ที่ขึ้นทะเบียน กับ สสว.
คุณวีระยุทธ เชื้อไทย รองผู้อำนวยการสำนักบริการผู้ประกอบการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เฉพาะกิจ) ให้ความสำคัญแก่เอสเอ็มอี อย่างมาก จึงมอบนโยบายด้านการยกระดับให้การส่งเสริมเอสเอ็มอี เป็นวาระแห่งชาติ
เริ่มตั้งแต่การย้ายสังกัดของ สสว. ไปอยู่ภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรี และปรับลดคณะกรรมการ (บอร์ด) สสว. จาก 2 ชุด คือ บอร์ดส่งเสริม กับ บอร์ดบริหาร ให้เหลือบอร์ดส่งเสริมเพียงอย่างเดียว ขึ้นกับนายกฯ โดยตรง ทำให้การทำงานกระชับ และว่องไวมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังได้สั่งการให้ขยายขอบเขตการส่งเสริมเอสเอ็มอี จากเดิม 3 เป็น 4 ประเภท ได้แก่ ภาคการผลิต ภาคการค้า ภาคบริการ และเพิ่มภาคการเกษตรเข้ามา เนื่องจากเห็นว่าภาคเกษตรเป็นธุรกิจที่สำคัญของประเทศไทย และมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอี อยู่ในกลุ่มนี้เป็นจำนวนมาก
นอกจากนั้น ในการประชุมบอร์ดเฉพาะกิจ ได้มีการหารือเพื่อจะหาแนวทางมอบสิทธิพิเศษให้เป็นแรงจูงใจให้แก่ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่มาขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิกของ สสว. เช่น ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษี เงินชดเชยดอกเบี้ย การเข้าถึงแหล่งทุน และการช่วยเหลือการตลาด เป็นต้นซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือถึงข้อสรุปอยู่ จากแผนงานและยุทธศาสตร์ดังกล่าว ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งจากการสำรวจความเชื่อมั่นเอสเอ็มอี 2 เดือนล่าสุด ปรับตัวดีขึ้นชัดเจน และหวังว่าในช่วงปลายปี จะได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวฟื้นตัว ทำให้สถานการณ์เอสเอ็มอี ไทย ปรับตัวดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ สถานการณ์ ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 (ม.ค.-มิ.ย.) เอสเอ็มอีมีการส่งออกสินค้า มูลค่ารวม 980,419.86 ล้านบาทขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (2556) คิดเป็นร้อยละ 14.77 ขณะที่การนำเข้าสินค้าของเอสเอ็มอี มีมูลค่ารวม 1,074,005.84 ล้านบาท หดตัวลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 13.2