คนรุ่นใหม่ ต้องคิดเร็ว ทำเร็ว นี่คือพื้นฐานแนวความคิดของ คุณโอฬาร ตั้งวงศ์กิจ เจ้าของธุรกิจ “บ้านไทยโฮม” ที่เริ่มต้นธุรกิจด้วยวัยเพียง 28 ปี โดยอาศัยเพียงความกล้า ความพร้อม และมุ่งสร้างธุรกิจด้วย 1 สมอง 2 มือ จนทำให้วันนี้มีเงินในบัญชีนับร้อยล้านบาท
เส้นทางนักธุรกิจร้อยล้านเกิดขึ้นหลังจากที่คุณโอฬาร ได้มีโอกาสทำงานประจำตำแหน่งวิศวกรในโรงงาน และในสายงานก็ได้มีโอกาสไปเรียนรู้การสร้างบ้านด้วยโครงสร้างเหล็กจากต่างประเทศอยู่ระยะหนึ่ง และมองเห็นว่าบ้านลักษณะนี้ยังไม่มีใครเปิดตลาดในเมืองไทย หลังจากทำงานประจำเพียง 1 ปี ก็ตัดสินใจก้าวขาออกมาและลงทุนเปิดธุรกิจรับสร้างบ้านเหล็กเป็นของตัวเอง
บ้านโครงสร้างเหล็กภายใต้แบรนด์ “บ้านไทยโฮม” คือ บ้านที่สามารถสร้างเสร็จได้ในเวลาเพียงไม่กี่วัน ซึ่งคล้ายๆ กับการสร้างบ้านน็อกดาวน์ แต่ความแตกต่างอยู่ที่การเลือกใช้วัสดุเหล็กมาสร้างเป็นส่วนใหญ่ทดแทนการใช้ไม้แบบบ้านน็อกดาวน์ และใช้การเชื่อมแน่นไม่สามารถถอดประกอบได้แต่สามารถรื้อสร้างใหม่ได้อีกทั้งยังสามารถขนย้ายได้ เพียงแค่ใช้แม่แรงดีดให้ตัวบ้านยกสูงขึ้นจากพื้นแล้วขนย้ายไปอยู่บนหลังรถ หลังจากนั้นก็ขนส่งต่อไปยังที่ดินของลูกค้าเพื่อติดตั้งได้เลย
ส่วนงานดีไซน์นั้นมี 2 รูปแบบ ได้แก่ บ้านสไตล์โมบายโฮม ราคาเริ่มต้น 145,000 บาท ซึ่งเป็นบ้านที่สร้างสำเร็จ สามารถขนย้ายไปตั้งบนที่ดินลูกค้า ใช้เวลาติดตั้งเพียง 2 วัน บ้านสไตล์สมาร์ทโฮม ราคาเริ่มต้น 350,000 บาท บ้านลักษณะนี้ก็จะนำโครงสร้างไปประกอบให้ลูกค้าที่หน้างาน และบ้านมีขนาดใหญ่กว่าโมบายโฮม ใช้เวลาสร้าง 45 วัน
ด้วยความที่ราคาของบ้านใครๆ ก็จับต้องได้ สินค้าจึงสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งกลุ่มนักลงทุนธุรกิจรีสอร์ต ที่ส่วนใหญ่สั่งผลิตขั้นต่ำ 10 หลังขึ้นไปต่อครั้ง รวมถึงผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยเอง “บ้านไทยโฮม” จึงกลายเป็นธุรกิจที่ซื้อง่ายขายคล่อง ปัจจุบันมียอดขายโดยเฉลี่ยประมาณ 20-30 หลังต่อเดือน กับรูปแบบบ้านโมบายโฮม เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้กว่า 5 ล้านบาทต่อเดือน มากถึง 60 ล้านบาทต่อปี
นักธุรกิจวัย 32 ปี เล่าต่อว่า การทำธุรกิจกว่าจะก้าวมาถึงความสำเร็จในวันนี้ได้ใช้เวลากว่า 4 ปี โดยมีกลยุทธ์ที่สำคัญในการทำธุรกิจอยู่คือ รักษาคุณภาพด้านการผลิต การรักษาชื่อเสียง ไปจนถึงการรับประกันสินค้าให้กับลูกค้า นี่คือจุดขายที่สร้างความประทับใจและเกิดการบอกต่อ ซึ่งแตกต่างจากผู้ค้ารายอื่นที่มักขายบ้านในลักษณะขายขาดไม่มีการดูแลหลังการขาย ส่วนการตลาดเน้นการออกบูธและทำการประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดียเป็นหลัก
“อนาคตเราจะขยายงานเพิ่ม และขยายตลาดในประเทศไปสู่รูปแบบแฟรนไชส์ รวมถึงการนำเข้าเครื่องจักรใหม่ๆ เพื่อพัฒนาไลน์ผลิต เพราะมีเป้าหมายในการส่งออกชิ้นส่วนต่างๆ ของบ้าน เพื่อให้สามารถนำไปประกอบสร้างบ้านให้กับลูกค้ายังต่างประเทศด้วย การทำธุรกิจให้ถึงเป้าหมายร้อยล้านก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะปัญหาเรื่องช่างคดโกงวัสดุ ก็ค่อยๆ แก้ไขต้องไม่หนีปัญหา และไม่ยอมแพ้ สำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากทำธุรกิจแต่หาเส้นทางเริ่มต้นไม่ถูก ผมขอแนะนำให้อ่านหนังสือที่เกี่ยวกับผู้ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจต่างๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองฮึกเหิม อยากให้ทุกคนกล้า และมั่นใจที่จะลงมือทำธุรกิจ อายุเท่าไหร่นั้นไม่สำคัญ”