ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลงมาแล้วกว่าร้อยละ 36 อาจทำให้เงินเฟ้อทรงตัว


ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลงมาแล้วกว่าร้อยละ 36 และคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ก็มีมติถอนการอุดหนุนราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (ก๊าซ LPG) ปรับเพิ่มราคาก๊าซ NGV และลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและดีเซลลง อีกครั้ง

ตลาดน้ำมันโลกเข้าสู่ช่วงภาวะหมี (Bear Market) มาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนต.ค. 2557 โดยราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลงมาแล้วกว่าร้อยละ 36 จากระดับที่สูงกว่า 111 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล มาเคลื่อนไหวในกรอบใกล้ๆ 70 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล ท่ามกลางสัญญาณที่สะท้อนถึงภาวะอุปทานส่วนเกินในตลาดน้ำมัน ทั้งนี้ ทิศทางตลาดพลังงานโลกดังกล่าว เป็นสถานการณ์ที่เอื้อให้กระบวนการปรับโครงสร้างราคาพลังงานภายในประเทศ ที่เป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของรัฐบาล มีความคืบหน้าไปได้หลายส่วน ซึ่งล่าสุดคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ก็มีมติถอนการอุดหนุนราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (ก๊าซ LPG) ปรับเพิ่มราคาก๊าซ NGV และลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและดีเซลลง

สรุปมติกบง. เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2557

การปรับโครงสร้างราคาก๊าซ LPG/NGV มีความคืบหน้ามากขึ้น โดยราคาขายปลีกก๊าซ LPG ในภาคขนส่งและภาคครัวเรือน ปรับเพิ่มขึ้นอีก 1.03 บาท/กิโลกรัม ซึ่งจะทำให้ราคาก๊าซ LPG ทั้ง 3 ส่วน คือ ภาคครัวเรือน ภาคขนส่ง และภาคอุตสาหกรรม ปรับตัวมาอยู่ในระดับเดียวกันที่ 24.16 บาท/กิโลกรัมตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค. 2557 พร้อมกันนี้ กบง. ยังพิจารณาปรับขึ้นราคาก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในภาคขนส่ง (ก๊าซ NGV) อีก 1 บาท/กิโลกรัม ซึ่งส่งผลให้ราคาก๊าซ NGV สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลและสำหรับรถสาธารณะ เพิ่มขึ้นเป็น 12.50 และ 9.50 บาท/กิโลกรัม ตามลำดับ และราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและดีเซลปรับลดลง 0.50-0.40 บาท/ลิตร ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี ขณะที่ ราคาน้ำมันดีเซลลงไปอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่ จะมีการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 0.50 บาท/ลิตร ไปพร้อมกัน ซึ่งทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับกว่า 300 ล้านบาท/วัน

โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่จะเกิด 2 เหตุการณ์สำคัญในช่วง 6 เดือนข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากการปรับสมดุลของอุปสงค์-อุปทานในตลาดน้ำมันโลก ไม่ส่งผลทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก เคลื่อนไหวในกรอบที่สูงไปกว่าระดับในปัจจุบันมากนัก

1)            สถานการณ์เงินเฟ้อของไทยน่าจะอยู่ในภาวะผ่อนคลายตลอดช่วงครึ่งแรกของปี 2558 โดยจากการที่สัดส่วนของราคาสินค้ากลุ่มน้ำมันในตะกร้าการคำนวณดัชนีราคาผู้บริโภคมีมากกว่าสัดส่วนของราคาก๊าซ LPG/NGV ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ผลสุทธิของการปรับราคาพลังงานตามมติกบง. ครั้งนี้ อาจทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนธ.ค. นี้ ชะลอลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 มาอยู่ที่ประมาณร้อยละ 1.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากระดับร้อยละ 1.26 ในเดือน พ.ย. 2557 ซึ่งส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั้งปี 2557 มีค่าเฉลี่ยที่ร้อยละ 1.9 ต่ำลงจากร้อยละ 2.18 ในปี 2556

2)            สภาวะเงินเฟ้อที่ทรงตัวในระดับต่ำข้างต้น น่าจะทำให้พื้นที่สำหรับการผ่อนคลายนโยบายการเงินของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดกว้างขึ้นและยาวนานขึ้น ซึ่งอาจทำให้กนง. สามารถพิจารณาจุดยืนของอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับที่ผ่อนคลายมากขึ้นกว่าร้อยละ 2.00 ในปัจจุบัน หากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงหลายเดือนข้างหน้า เป็นไปอย่างล่าช้า ไม่ว่าจะมีสาเหตุมาจากการส่งออก หรือการใช้จ่ายของภาครัฐ