สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยกลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มจะเติบโตได้ดี ในปี 2558 เนื่องจากมีความต้องการในตลาดคู่ค้าสูง และมีบทบาทในการเชื่อมโยงกิจกรรมทางเศรษฐกิจและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ มีศักยภาพการแข่งขันทั้งในตลาดโลกและตลาดภูมิภาค รวมทั้งเป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับกระแสโลก จำนวน 11 กลุ่ม คือ
1. ธุรกิจชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศ โดยเฉพาะอุปกรณ์สื่อสาร อุปกรณ์การแพทย์ ขณะที่การส่งออกมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
2. ธุรกิจยานยนต์และชิ้นส่วน เนื่องจากตลาดคู่ค้าสำคัญของไทยทั้ง เอเซีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา เริ่มกระเตื้องขึ้น กอรปกับไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนในภูมิภาคอาเซียน ทำให้สินค้าในกลุ่มธุรกิจนี้มีโอกาสสูงโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน
3. ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ผลจากแนวโน้มของอาหารเพื่อสุขภาพ ความงาม และอาหารเฉพาะกลุ่ม (คนอ้วน คนป่วย ทารก และนักกีฬา) มีลู่ทางที่ดี
4. ธุรกิจการบริการด้านการศึกษา เนื่องจากมีการส่งเสริมการศึกษานอกระบบเพิ่มสูงขึ้น เพื่อรองรับการสร้าง Knowledge Economy
5. ธุรกิจด้านพลังงาน ผลจากต้นทุนมีทิศทางลดต่ำลง ขณะที่การลงทุนทั้งภาครัฐและภาคเอกชนขยายตัว โดยเฉพาะธุรกิจพลังงานทดแทนเนื่องจากกระแสความสนใจเรื่องความมั่นคงด้านพลังงาน
6. ธุรกิจภาคเกษตรกรรม เนื่องจากสามารถเชื่อมโยงการผลิตในกลุ่ม CLMV ตามการเปิด AEC และเป็นธุรกิจต้นน้ำของธุรกิจเกษตรแปรรูปอาหาร ยา และพลังงานทดแทน ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง
7. ธุรกิจก่อสร้าง เนื่องจากได้รับโอกาสจากการเปิด AEC ที่แต่ละประเทศมีการพัฒนาทั้งระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน งานพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ขณะที่ภาครัฐของไทยมีการลงทุนพัฒนาระบบขนส่งขนาดใหญ่ ทั้งรถไฟฟ้า รถไฟรางคู่ ฯลฯ
8. ธุรกิจการขนส่งและโลจิสติกส์ มีโอกาสเติบโตตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจภายในประเทศ และการเปิด AEC ที่จะเชื่อมโยงการขนส่งมวลชนและสินค้าได้มากขึ้น
9. ธุรกิจท่องเที่ยว เนื่องจากการท่องเที่ยวของไทยมีศักยภาพการแข่งขันทั้งในตลาดโลกและตลาดภูมิภาค ที่สำคัญการเปิด AEC จะทำให้สามารถเชื่อมโยงเครือข่ายท่องเที่ยวในกลุ่ม CLMV ได้ด้วย และผลจากการเมืองที่มีเสถียรภาพทำให้ทิศทางการท่องเที่ยวไทยสดใส
10. ธุรกิจการบริการด้านสุขภาพ ผลจากความตื่นตัวด้านสุขภาพ ด้านการชะลอวัย และโครงสร้างทางสังคมเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุ
11. ธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เนื่องจากนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิตอลของรัฐบาล จะสร้างความตื่นตัวในการพัฒนาระบบ IT และระบบ ICT ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงความต้องการจากตลาดต่างประเทศ
กลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มต้องระมัดระวังในปี 2558
1. ธุรกิจการผลิตยารักษาโรค ผลจากการที่ผู้บริโภคตื่นตัวด้านสุขภาพและมีแนวโน้มหันไปใช้ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรเพิ่มมากขึ้น
2. ธุรกิจการผลิตน้ำนมและผลิตภัณฑ์จากนม เนื่องจากกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปจำกัดโควต้าการส่งออกน้ำนมดิบ ขณะที่ราคาขายน้ำนมดิบของผู้ค้ารายย่อยภายในประเทศตกต่ำลง
3. ธุรกิจการผลิตเครื่องมือเครื่องใช้ไฟฟ้า ผลจากมีการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะจากประเทศจีนซึ่งมีราคาต่ำกว่า
4. กลุ่มธุรกิจการทำอาหารแปรรูปทั่วไป เนื่องจากตลาดมุ่งเน้นไปยังสินค้าเพื่อสุขภาพมากขึ้น เพื่อรองรับการกระแสการตื่นตัวด้านสุขภาพที่มาแรงในปีหน้า
อย่างไรก็ดี แม้ธุรกิจการผลิตยารักษาโรค ธุรกิจการผลิตน้ำนมและผลิตภัณฑ์จากนม ธุรกิจการผลิตเครื่องมือเครื่องใช้ไฟฟ้า และกลุ่มธุรกิจการทำอาหารแปรรูปทั่วไป จะมีความเสี่ยงในปี 2558 แต่ยังถือว่าเป็นธุรกิจที่มีความจำเป็นต่อผู้บริโภคทุกประเทศอยู่ ดังนั้นผู้ประกอบการจึงเพียงเฝ้าระวัง และเตรียมแผนรับมือไว้ เพื่อสถานการณ์ในอนาคต ร่วมถึงการหาตลาดใหม่เพื่อเปิดโอกาสให้สินค้าของตนเองเพิ่มมากขึ้น