กรมการค้าต่างประเทศปรับวิธีการประมูลข้าวใหม่ เปิดราคาเริ่มต้นให้สู้ราคากัน


 

กรมการค้าต่างประเทศเปิดประมูลข้าวครั้งที่ 1/2558 จำนวนประมาณ 1 ล้านตัน โดยเป็นข้าวขาว 5 % ประมาณ 850,000 ตัน ข้าวหอมมะลิ 150,000 ตัน และมีการปรับเงื่อนไขการประมูลใหม่ ให้เป็นการประมูลยกคลัง และตั้งให้มีราคาเริ่มต้น ( Floor Value)ให้ผู้เสนอซื้อแข่งขันเพิ่มมูลค่า ใครให้ราคาสูงสุดชนะการประมูลไป

 

คุณดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยถึงการประมูลข้าวในสต๊อกของรัฐบาลในวันที่ 29 มกราคม 2558 นี้มีความแตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา โดยการขายในครั้งนี้เป็นประมูลขายแบบยกคลัง ข้าวแต่ละกองมีคุณภาพที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเสนอขายในครั้งนี้จึงเป็นการขายตามสภาพ และเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ซื้อจึงได้มีการประกาศราคาเริ่มต้น( Floor Value) ของแต่ละคลัง ให้ผู้ประมูลใช้เป็นเกณฑ์ในการเสนอราคา

 

“ราคารที่เราประกาศในครั้งนี้ เป็นราคาขั้นต่ำที่จะเปิดให้ประมูล ผู้ซื้อต้องเสนอซื้อในราคาที่สูงกว่าที่เราประกาศ หากรายใดเสนอราคาเท่ากันมากกว่า 1 ราย ก็จะเปิดโอกาสให้เสนอราคาแข่งขัน โดยราคาที่แข่งขันแต่ละครั้งต้องไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท และเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้น เราเปิดโอกาสให้ผู้ประมูลสามารถเข้าไปตรวจสอบคุณภาพข้าว ณ.ที่คลังสินค้าที่สนใจได้ตั้งแต่วันที่ 21-28 มกราคม 2558” อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าว

 

นอกจากนี้อธิบดียังกล่าวอีกว่า แม้ว่าจะเปิดขายเป็นยกกอง  แต่ก็เปิดโอกาสให้รายย่อยได้รวมตัวกันมาประมูล และเนื่องจากปริมาณการเปิดประมูลในครั้งนี้มีจำนวนที่มาก จึงขยายเวลาในการรับซองจากเดิมปิดที่ 11.00 น. มาเป็น 11.30 น. และเมื่อชนะการประมูลจะขยายเวลาการส่งมอบและขนย้ายเป็น 210 วัน

 

อนึ่ง การตัดสินผลการขายข้าวในการประมูลครั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศจะรวบรวมผลผู้ที่เสนอมูลค่าสูงสุดในแต่ละคลังและข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนผู้เข้าร่วมประมูล การแข่งขันด้านราคา พฤติกรรมในการประมูลและปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ เพื่อเสนอประธาน นบข. พิจารณาชี้ขาดว่าจะตกลงขายคลังใดหรือไม่ อย่างไร  เพื่อรักษาประโยชน์สูงสุดของราชการ โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อกลไกและราคาข้าวในตลาดประกอบกัน

 

ทั้งนี้อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ได้พยายามปรับปรุงเงื่อนไขและกลไกให้เกิดความสะดวกแก่ผู้เข้าร่วมประมูล รวมทั้งปรับวิธีการ/แนวทางการพิจารณา เพื่อจูงใจให้เกิดการแข่งขัน การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยคงยึดหลักของความโปร่งใส เป็นธรรม และรักษาประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นที่ตั้ง