คุณเชื่อไหม… คนไทยคิดทำธุรกิจเพราะอยากได้ “เงิน”
ใครบ้างละครับที่คิดทำธุรกิจไม่อยากได้ “เงิน” เพียงแต่ความอยากได้เงินนี้เองที่ทางพระท่านเรียกว่า “ความโลภ” ซึ่งเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์…. ดูสิเริ่มต้นก็ทุกข์เลย จริง ๆ คนเริ่มธุรกิจไม่ได้เป็นทุกข์หรอกครับ เพราะความคิดเขาขณะนั้นกำลังคิดถึง “กำไร” “รายได้” “ความร่ำรวย” “ความสำเร็จ” ทั้งหมดไม่ได้แสดงถึงความทุกข์เลย
มีใครไหมครับที่เริ่มต้นธุรกิจจะคิดถึง “ขาดทุน” “เหนื่อย” “ลำบาก” “ทรมารใจ” คงไม่มีนักธุรกิจคนไหนกล้าคิดเช่นนี้แน่ เพราะฟังดูแต่ละคำมันดูลำเข็ญ มากทีเดียว ถ้าพึ่งทางพระท่านก็จะบอกให้ “ดับทุกข์” ด้วยการเจริญสติ… ซึ่งหลายคนก็เชื่อเช่นนั้นเลย “หยุด” หรือ “ล้มเลิก” ความตั้งใจในการทำธุรกิจไปเลยทีเดียว แท้จริงพระท่านบอกให้ “เจริญสติ” คือให้คิดไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนจะลงมือทำ ความสำเร็จจะตามมา
การเริ่มต้นธุรกิจ จึงต้องเริ่มด้วย “การคิด” ครับ คิดไตร่ตรองอย่างรอบครอบ และรอบรู้ ไม่ใช่เริ่มจากอยากได้เงิน อยากรวย หรืออดทนลำบากเพื่อจะประสบความสำเร็จ แต่เป็นการคิด “วางแผน” อย่างรอบด้าน ทั้งด้านการจัดการ การเงิน การตลาด เพื่อตอบตัวเองให้ได้ว่าจะทำธุรกิจอย่างไร ทำกับใคร ทำเมื่อไหร่
ก่อนเริ่มต้นธุรกิจ ก่อนที่จะลงมือ เราควรคิดอะไรบ้าง?
1. เป้าหมายของกิจการ เรื่องแรกที่ต้องคิด และสำคัญมาก ๆ สำหรับการเริ่มต้น แน่นอนต้องเป็นประโยคหรือคำที่สามารถจับต้องได้ ประเมินผลได้ ไม่ใช่แค่คำว่า “กำไร” เพราะกำไรยังจับต้องไม่ได้ แต่ให้ลงลึกให้ชัดเจน เช่น ยอดขายปีละ 30 ล้าน หรือมีเงินสด 100 ล้านก่อนอายุ 30ปี เป็นต้น เมื่อคิดเป้าหมายได้แล้ว ให้ทำภาพเป้าหมายให้ออกมาเป็นภาพที่ชัดเจน ด้วยการเขียน ด้วยการวาด ด้วยการตัดรูปภาพ มาติดไว้ในสายตาตลอดเวลา เพื่อย้ำเตือนถึงเป้าหมายของตัวเองและกิจการ ให้กลายเป็นภาพที่ติดในความทรงจำ…
2. รู้จักใช้เครื่องมือที่ถูกต้อง เวลาพูดถึงเครื่องมือในการทำธุรกิจผมไม่ได้หมายถึง คืม ฆ้อน กรรไกร บลา ๆๆๆ แต่ผมหมายถึง หลักวิชาการที่เกี่ยวข้อง เช่น การสร้าง Business Model ที่สามารถตอบคำถามแบบมีเหตุมีผลในการจะทำธุรกิจอะไรซักอย่าง ซึ่งยิ่งทำให้ละเอียดยิ่งทำให้ธุรกิจง่ายขึ้น และเป็นต้นทางในการนำไปสุ่การทำเครื่องมือ อื่น ๆ ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ เช่น การทำ business plan หรือแผนธุรกิจ การทำแผนการตลาด การทำแผนการเงิน ตลอดจนเครื่องมือในการบริหารจัดการธุรกิจอืน ๆ ในอนาคต….. พูดง่าย ๆ เริ่มต้นดี เริ่มต้นถูก เป้าหมายชัด โอกาสความสำเร็จก็เกินร้อย
3. รู้จักตลาด เพราะมันคือหัวใจในการดำเนินธุรกิจ ที่สำคัญ “การตลาด” ไม่ใช่แค่เพียงรู้ว่าขายอะไร? แต่หมายรวมถึง รู้จักกลุ่มลูกค้า รู้จักเครื่องมือทางการตลาด รู้จักช่องทาง สิ่งสำคัญ คือ รู้จักกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน เพราะจำทำให้การวางแผนการสื่อสารหรือการเข้าถึงใจลูกค้าทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ คนสูงอายุ คนทำงาน คนวัยเรียน ล้วนมีพฤติกรรมการบริโภคที่แตกต่างกัน ส่วนเครื่องมือการตลาดที่ควรรู้จัก คือ
IMC : Integrated Marketing Communication นี่ถือว่าเป็นเครื่องมือทรงพลังทางการตลาดทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์
4. ลงมือทำอย่างตั้งใจและมุ่งมั่น ระหว่างลงมือเริ่มธุรกิจแน่นอนรายได้ยังไม่มากนัก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทำให้หลายคนอาจพบธุรกิจใหม่ หรือโอกาสใหม่ ๆ เสมอ ถ้าความตั้งใจ และมุ่งมั่นไม่เพียงพอ คุณจะหลุดจากธุรกิจ คุณจะใส่พลังน้อยลง และแน่นอนผลลัพธ์ย่อมน้อยลงจนไม่คุ้มค่ากับเวลาที่คุณลงทุน….จงย้อนกลับไปอ่านข้อ 1 เรื่องเป้าหมาย และมุ่งมั่นเดินอย่างมั่นคงให้ถึงเป้าหมาย เพราะทุกคนสามารถเดินถึงเป้าหมายได้ จำไว้ว่า “เป้าหมายธุรกิจ ไม่เคยทิ้งคุณ มีแต่คุณเท่านั้นที่ ทิ้งเป้าหมายธุรกิจ”
การเริ่มต้นธุรกิจ ที่ง่ายที่สุดเริ่มจากการ “ให้” เพราะทัศนคติจากการให้ ทำให้คุณยอมเรียนรู้ ยอมที่จะรับผิดชอบ ยอมที่จะดูแลลูกค้าให้เหมือนดูแลคนในครอบครัว และยอมที่จะเปิดใจรับฟังคำแนะนำและการเสนอแนะจากผู้สำเร็จอื่น ๆ เมื่อไหร่ที่คุณเริ่มธุรกิจด้วยความคาดหวังกำไร สมองคุณจะไม่สนใจลูกค้า สมองคุณจะมุ่งสู่ความโลภ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสีหน้า ท่าทางที่เอารัดเอาเปรียบจนคนรอบข้างหรือลูกค้าสัมผัสได้
จำไว้ว่า “เริ่มต้นธุรกิจ อยู่ที่ทัศนคติที่ดี” คิดดี ทำดี พูดดี มีคนรักมีคนชอบและคนเหล่านั้นจะเป็นลูกค้าคุณในอนาคต
อ.วีระยุทธ เชื้อไทย
www.facebook.com/veerayuth.kung