สภาพคล่องปี 57 เพิ่มขึ้น ส่วนแนวโน้มไตรมาสแรกปี 58 ยังคงผ่อนคลายต่อเนื่อง


จำนวนสินเชื่อในเดือน ธ.ค.2557 เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบปี ขณะที่ เงินรับฝากที่รวมกับตราสารหนี้ที่ออกและเงินให้กู้ยืม เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกัน ส่วนสภาพคล่องในไตรมาส 1/2558 มีทิศทางผ่อนคลาย จากฤดูกาลชำระคืนสินเชื่อ แม้ว่าการแข่งขันระดมเงินฝากจะชะลอลงจากช่วงครึ่งหลังของปี 2557

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รวบรวมข้อมูลสินเชื่อ เงินรับฝาก และสภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2557 เทียบกับสิ้นปี 2556 พร้อมประเมินแนวโน้มสินเชื่อ เงินรับฝาก และสภาพคล่องในระยะถัดไป โดยมีรายละเอียด ดังนี้               

จำนวนเงินให้สินเชื่อในเดือน ธ.ค.2557 เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบปี ขณะที่ เงินรับฝากที่รวมกับตราสารหนี้ที่ออกและเงินให้กู้ยืม เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกัน โดยยอดเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้สุทธิ  ของธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง ในเดือนธันวาคม 2557 มีจำนวน 9.892 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.38 แสนล้านบาท จากยอดคงค้างที่ 9.754 ล้านล้านบาท และในเดือนพฤศจิกายน 2557 ด้วยอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 4.20 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือเป็นการเติบโตที่สูงสุดในรอบปี 2557 ด้านยอดเงินรับฝาก มีจำนวน 10.89 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.85 แสนล้านบาท ขณะที่ตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืม ซึ่งมีตั๋วแลกเงินเป็นหนึ่งในองค์ประกอบนั้นอยู่ที่ระดับ 7.57 แสนล้านบาท ลดลง 49,315 ล้านบาทจากเดือนก่อนหน้า ทำให้ยอดรวมเงินฝากกับตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืม มีจำนวนทั้งสิ้น 11.65 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.35 แสนล้านบาท จากระดับ 11.51 ล้านล้านบาท ในเดือนก่อนหน้า หรือเติบโตร้อยละ 5.54 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

เมื่อพิจารณาสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ไทยในเดือนธันวาคม 2557 พบว่า มีทิศทางผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า สังเกตได้จาก อัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องตามความหมายกว้าง ต่อสินทรัพย์รวมของธนาคารพาณิชย์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ในเดือนธันวาคม 2557 อัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ระดับร้อยละ 22.3 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากระดับร้อยละ 21.7 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนว่าธนาคารพาณิชย์มีสินทรัพย์สภาพคล่องสำหรับรองรับการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน หากเทียบกับสิ้นปี 2556 และค่าเฉลี่ยย้อนหลัง ปี 2551- ธ.ค.2557 พบว่าสัดส่วนดังกล่าวมีทิศทางที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจชี้ถึงภาวะที่ผู้ออมส่วนหนึ่งเลือกออมเงินกับธนาคารพาณิชย์ท่ามกลางความไม่แน่นอนของทิศทางเศรษฐกิจ แม้ว่าในปี 2557 ธนาคารพาณิชย์จะไม่ได้แข่งขันระดมเงินฝากเข้มข้นมากเท่าปีก่อนก็ตาม ภายใต้การเติบโตของสินเชื่อที่ชะลอลง

สำหรับสภาพคล่องในไตรมาส 1/2558 มีทิศทางผ่อนคลาย จากฤดูกาลชำระคืนสินเชื่อ แม้ว่าการแข่งขันระดมเงินฝากจะชะลอลงจากช่วงครึ่งหลังของปี 2557 ก็ตาม โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่าการเติบโตของสินเชื่อที่จะเผชิญผลกระทบจากปัจจัยด้านฤดูกาลชำระคืนสินเชื่อของทั้งผู้ประกอบการและลูกค้ารายย่อยในช่วงไตรมาส 1/2558 คงมีผลให้แรงกดดันต่อระดับสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ไทยในช่วงไตรมาสแรกของปีมีทิศทางผ่อนคลายลง แม้ว่าการเติบโตของเงินฝากและการแข่งขันระดมเงินฝากจะไม่ได้เร่งขึ้นจากช่วงท้ายปี 2557 ก็ตาม

กล่าวคือการเติบโตของสินเชื่อไตรมาส 1/2558 มีแนวโน้มชะลอลง จากฤดูกาลชำระคืนสินเชื่อ แม้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่มีทิศทางชัดเจนขึ้นตั้งแต่ช่วงท้ายปี 2557 ผนวกกับความเชื่อมั่นของทั้งภาคธุรกิจและผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นในทิศทางเดียวกัน จะช่วยให้เกิดความต้องการเบิกใช้สินเชื่อใหม่ในหลายภาคส่วน โดยเฉพาะเงินให้สินเชื่อเพื่อลงทุนระยะยาวของผู้ประกอบการ และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของลูกค้ารายย่อย อย่างไรก็ดี หากพิจารณาอัตราการเติบโตของสินเชื่อในลักษณะไตรมาสต่อไตรมาส แล้ว เชื่อว่า อาจเห็นภาพการเติบโตที่ชะลอลง จากปัจจัยด้านฤดูกาลชำระคืนสินเชื่อของภาคธุรกิจ และผลิตภัณฑ์สินเชื่อรายย่อยอย่างบัตรเครดิต ซึ่งเมื่อผนวกกับความต้องการสินเชื่อเพื่อเงินทุนหมุนเวียนยังมีแนวโน้มชะลอลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก คงทำให้แรงกดดันของสินเชื่อต่อทิศทางสภาพคล่องธนาคารพาณิชย์ไม่เด่นชัดเมื่อเทียบกับช่วงท้ายปีที่ผ่านมา ส่วนการแข่งขันระดมเงินฝากจะไม่ร้อนแรงอย่างเดิม ท่ามกลางสภาพคล่องในองค์รวมที่เพียงพอต่อการขยายธุรกิจหลัก ทั้งนี้ ภาพการเติบโตของสินเชื่อที่มีแนวโน้มชะลอลง ผนวกกับสภาพคล่องในองค์รวมของธนาคารพาณิชย์ เมื่อพิจารณาผ่านอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องต่อสินทรัพย์รวมที่ยังอยู่ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในอดีต และสูงกว่าค่าเฉลี่ยในปี 2557 ซึ่งบ่งชี้ว่าสภาพคล่องในองค์รวมของธนาคารพาณิชย์ไทยน่าจะยังอยู่ในระดับที่เพียงพอต่อการขยายตัวของธุรกิจหลัก และเมื่อผนวกกับเงินทุนไหลกลับจากเงินลงทุนในกองทุน LTF ที่จะครบกำหนดแล้ว น่าจะช่วยชดเชยผลของการออกพันธบัตรออมทรัพย์ของภาครัฐเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณและชำระหนี้ในโครงการรับจำนำข้าว การระดมเงินฝากจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ตลอดจนการระดมเงินออมของภาคเอกชน ผ่านทางการออกตราสารทางการเงินต่างๆ จะทำให้ภาพการเติบโตของเงินฝากและการแข่งขันระดมเงินฝากจากธนาคารพาณิชย์กับช่องทางการออมอื่นๆ ในช่วงไตรมาส 1/2558 ไม่ได้เร่งตัวขึ้นชัดเจนเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งหลังของปี 2557

นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่น่าติดตาม คือ ความมั่นคงของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ที่ผูกโยงกับความก้าวหน้าของการลงทุนภาครัฐ และการแก้ไข พ.ร.บ.แพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยเรื่องการค้ำประกันฯ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558 อันอาจมีผลต่อกระบวนการพิจารณาเครดิตของธนาคารพาณิชย์สำหรับบางกลุ่มลูกค้า รวมถึงความผันผวนของกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ ซึ่งขึ้นกับนโยบายการเงินของประเทศแกนหลักและท่าทีของทางการไทย เพราะท้ายที่สุดแล้ว อาจมีผลต่อสินเชื่อ เงินฝาก และทิศทางสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 1/2558 อย่างยากที่จะหลีกเลี่ยง