การซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ในมาเลเซียเติบโตสูง


คุณเกศมณี เลิศกิจจา ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และกรรมการบริหารสถาบันวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอุตสาหกรรมการผลิต (SMI) กล่าวว่า โอกาสธุรกิจของ SME ไทยในมาเลเซีย นอกเหนือจากธุรกิจสุขภาพและความงาม ยังมีโอกาสธุรกิจในสินค้าของขวัญ, ของตกแต่งบ้าน, อัญมณี, เครื่องประดับ รวมถึงอาหารและบริการร้านอาหาร เช่น แฟรนไชส์แบล็กแคนยอน หรือบาร์บีคิว พลาซ่า เป็นต้น

“วิถีชีวิตของคนไทยกับคนมาเลเซีย ถูกปลูกฝังมาคนละแบบ คนไทยอยู่อย่างพอเพียง แต่คนมาเลเซียจะอยู่อย่าง High Living หรืออยู่ดีกินดี ฉะนั้นจะต่างกัน พอเขาอยู่ดีกินดี เขาจะเข้ามาพักอาศัยและทำงานในเมืองมากขึ้น ชีวิตจึงเต็มไปด้วยความเร่งรีบ ทุกอย่างจึงต้องสะดวกสบายแม้แต่การซื้อของ ในเรื่องการซื้อสินค้าผ่าน online system มีการเติบโตสูงมาก สินค้าที่คนมาเลเซียซื้อผ่านออนไลน์ เช่น เครื่องใข้ไฟฟ้า, เสื้อผ้า, รองเท้า, สินค้าสุขภาพ-ความงาม เป็นต้น” คุณเกศมณี กล่าว

สำหรับสิ่งที่ผู้ประกอบการไทยต้องรู้ก่อนเข้าไปทำธุรกิจในมาเลเซีย คุณเกศมณี กล่าวว่า มาเลเซียมีนโยบายการค้าใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2558 มาเลเซียจะเริ่มมีการเก็บภาษี GST (Goods and Services Tax) ซึ่งจะเก็บประมาณ 6% เพื่อเอาไปทดแทนการเก็บภาษีเรื่องการขายของหรือการบริการ โดยธุรกิจที่มีผลตอบแทบตั้งแต่ 5 แสนริงกิตต่อปี (ประมาณ 4.5 ล้านบาท) ต้องเสียภาษี แต่จะยกเว้นสินค้าบริโภคพื้นฐาน เช่น ข้าว, น้ำตาล, การศึกษา, ขนส่งสาธรณะ, ที่อยู่อาศัย เป็นต้น