เลี้ยงไส้เดือนขาย สร้างรายได้ไม่ธรรมดา


        เลี้ยงไส้เดือนส่งออก รายได้สูงสุดขึ้น 5,000 บาทต่อกิโลกรัม ส่งออกสหภาพยุโรป และจีนเป็นเชื่อเป็นยาบำรุง

ปัจจุบันสหภาพยุโรป และจีนเป็นผู้นำเข้าไส้เดือนรายใหญ่ที่สุด ส่วนประเทศที่ส่งออกไส้เดือนมากที่สุดเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ซื้อมาทำยาบำรุง รักษาโรคหัวใจ รองลงมาคือประเทศอินเดียและ ประเทศไทย สำหรับประเทศจีนนิยมนำไส้เดือนมาทำเป็นยาบำรุงเชื่อว่าช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย

ทั้งนี้ต้นทุนในการทำบ่อเลี้ยงไส้เดือน อยู่ที่ประมาณ 1000 – 2000 ต่อ 1 บ่อ และสำหรับในเมืองไทยนั้นถือว่าgrbj’เริ่มมีการเพาะพันธุ์ไส้เดือนเพื่อส่งออกได้ไม่นานนัก ด้านราคารับซื้อ ไส้เดือน ข้อมูลจาก thaiworm พบว่า สายพันธุ์ Eisenia foethda ( ไทเกอร์ ) ราคา 1,500 – 5,000 บาท ส่วนสายพันธุ์ Lumbricus rubellus (ไส้เดือนแดง) ราคา 1,000 – 2,000                สำหรับสายพันธุ์ Eudrilus eugeniae ( แอฟริกัน ไนท์ คลอเลอร์) อยู่ที่ราคา 600 – 1,500 บาท ซึ่งสายพันธุ์ Pheretima peguana (ขี้ตาแร่) ราคา 400 – 600 บาท และสายพันธุ์ Blue worm (ไส้เดือนสีน้ำเงิน) ราคา 600 – 1000 บาท รวมทั้งสายพันธุ์ Pheretima posthuma ( ขี้คู้ ไส้เดือนดินสีเทา ) ราคา 150 – 450 บาท

ประเทศไทยมีสภาพอากาศของไทยพอเหมาะในการเลี้ยงไส้เดือน โดยเพียงมีพื้นที่สำหรับว่าง อ่าง หรือบ่อสำหรับการเลี้ยง หรือโดยใส่ขี้วัว เศษหญ้า หรือฟางข้าว จากนั้นเพิ่มดินลงไปเรื่อย ๆ นอกจากนี้การโรยปูนขาวเดือนเว้นเดือน ยังเป็นการลดความเป็นกรดเป็นด่างและทำให้ไส้เดือนมีสุขภาพที่ดี และดูแลอย่าให้มีน้ำท่วมขัง การเลี้ยงไส้เดือนนอกจากจะทำรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการแล้ว ยังสามารถช่วยกำจัดขยะอินทรีย์ และขยะในครัวเรือนได้อีกด้วย โดยเมื่อมีเศษอาหารเหลือ ยังสามารถนำไปเป็นปุ๋ยในรางไส้เดือนได้ เป็นการกำจัดขยะอย่างเป็นประโยชน์