การเริ่มต้นทำธุรกิจอาจจะกลายเป็นสิ่งที่ยากและท้าทายความสามารถ แต่ด้วยความฝันที่ต้องการมีธุรกิจทำให้ต้องลุกขึ้นสู้ในก้าวแรกนี้ แต่ไม่ว่าจะเริ่มต้นจากจุดใดก็ตามจึงขอแนะนำวิธีการสำหรับคนมีฝันให้ก้าวอันสำคัญนี้ สามารถเดินต่อไปได้สุดปลายทางความสำเร็จ
การนำความรู้ และความสามารถที่มีมาประยุกต์ใช้ในธุรกิจที่ตนรักเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญ ฉะนั้นผศ.ดร.วิชิต อู่อ้น อาจารย์หัวหน้าภาควิชาการตลาดและบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม และกรรมการศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ได้บรรยายพิเศษถึง เรื่อง “ครบเครื่อง SMEs” ให้ผู้ประกอบใหม่ฟังว่า การทำธุรกิจต้องมีแผนธุรกิจ โดยในแผนเริ่มจากสิ่งสำคัญที่สุด คือ สร้างกำลังใจให้ตัวเอง และหวังกำไรอย่างพอเพียง ที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนรวมถึงสังคมด้วย และต่อมาสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการเริ่มต้นธุรกิจ คือ ต้องรู้จักตัวเอง โดยวิเคราะห์จากหลาย ๆ ด้าน เพื่อพิจารณาว่าธุรกิจของเรามีความเป็นไปได้แค่ไหน เมื่อทำการวิเคราะห์รอบตัวเองแล้ว ต้องเข้าไปวิเคราะห์ถึงตลาดธุรกิจอีกด้วยว่าทำเลที่ตั้งส่วนไหนเหมาะกับการทำการค่ามากที่สุด แล้วจึงควรทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ธุรกิจ SMEs ให้ตรงจุดกลุ่มลูกค้า หรืออาจจะร่วมเป็นสปอนเซอร์ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ตรงกับกลุ่มลูกค้าก็ได้
นอกจากนี้ทุกธุรกิจต้องมีกลยุทธ์เพิ่มหรือลดราคาสินค้าให้ลูกค้าด้วย เพราะบางครั้งการลดราคาช่วยให้ได้กำไรมากขึ้น หรือถ้าเพิ่มราคากำไรอาจจะลดลงได้ ดังนั้นต้องดูลูกค้าเป็นหลัก เช่น การลดราคาสินค้าช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อเพิ่มถึง 50% ก็อาจจะทำให้ขายได้กำไรมากกว่าการปรับเพิ่มราคา แต่ถ้าสินค้าเป็นสิ่งจำเป็นต่อการบริโภคไม่ควรลดราคา เพราะถึงอย่างไรเสียลูกค้ายังจำเป็นต้องซื้อแน่นอน ทั้งนี้ความสำคัญการจัดทำแผนธุรกิจ ช่วยให้รายละเอียดของการเริ่มต้นธุรกิจมีเป้าหมายที่ชัดเจนขึ้น โดยแผนธุรกิจ ต้องประกอบด้วย สินค้าหรือบริการที่จะขายแก่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย จุดแข็งและจุดอ่อนของกิจการ นโยบายการตลาด เช่น นโยบายด้านราคา การส่งเสริมการตลาด และการกระจายสินค้า วิธีการหรือกระบวนการในการผลิต รวมถึงเครื่องจักร ตัวเลขทางการเงินนับตั้งแต่รายได้ที่คาดว่าจะได้ ค่าใช้จ่าย กำไร ขาดทุน จำนวนเงินลงทุนที่ต้องการและกระแสเงินสดที่คาดว่าจะได้มาหรือใช้ไป อีกทั้งต้องมีการเตรียมแผนฉุกเฉินไว้รับมือ เช่น ยอดขายหรือการเงินลูกหนี้ไม่เป็นไปตามคาดหมายจนทำให้เงินไม่สามารถหมุนเวียนต่อไปได้ , ไปกู้เงินที่ธนาคารแล้วไม่อนุมัติให้ , คู่แข่งตัดราคาหรือจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องที่มีขนาดใหญ่กว่า ทันสมัยกว่า มีสินค้าครบถ้วนกว่า และราคาถูกกว่า หรือสินค้าถูกลอกเลียนแบบขายในราคาที่ถูกกว่า เป็นต้น ในส่วนนี้ผู้ประกอบการทุกคนต้องหาคำตอบไว้ล่วงหน้าเพื่อที่จะตั้งรับกับสถานการณ์ที่เราคาดไม่ถึง
ส่วนการผลิตสินค้าจะออกมาเหมือนหรือแตกต่างกับคู่แข่ง คุณภาพจะสูงหรือต่ำกว่าไม่ใช่สิ่งสำคัญ เพราะสินค้าแต่ละชนิด เทคนิคการผลิตแตกต่างกัน ราคาก็จะแตกต่างกันตามไปด้วย แต่ต้องดูว่าสินค้านั้นตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าได้มากแค่ไหน เพราะถ้าหากสินค้าราคาแพงคุณภาพก็ต้องดี ไม่เช่นนั้นลูกค้าอาจผิดหวังและเกิดการบอกกันแบบปากต่อปาก จนทำให้สินค้าเราถูกมองข้ามไปเลยก็ว่าได้ อย่างไรก็ตามการทำการค้าเพียงด้านเดียวคงไม่มีประสิทธิภาพเท่าไรนัก ดังนั้นจึงควรเปิดช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าเพิ่มมากขึ้น หรือถ้าเป็นไปได้ควรที่จะทำทั้งค้าปลีกและค้าส่ง โดยค้าส่ง 60% และค้าปลีก 40% เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ที่ค้าปลีกและค้าส่งจะประสบความสำเร็จค่อนข้างสูงกว่าการเลือกขายแบบใดแบบหนึ่ง
ด้วยเหตุนี้การเริ่มต้นธุรกิจของ SMEs จะประสบความสำเร็จได้จะต้องมีความขยันอดทน และมีไอเดียที่ดี พร้อมกับต้องรู้ว่าทิศทางตลาดของเราเป็นอย่างไร คู่แข่งสินค้าที่ใกล้เคียงเป็นอย่างไร และหาโปรโมชั่นให้แก่ลูกค้า เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจของตนเองกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องมาการวางแผนอย่างรอบคอบ และลงมือทำอย่างตั้งใจ