โค้งสุดท้ายก่อนเข้าสู่โลว์ซีซั่น คาดการณ์ต่างชาติเที่ยวไทย เติบโต


         ในภาวะเศรษฐกิจค่อนข้างซบเซา ดูเหมือนว่าภาคการท่องเที่ยวไทย จะกลายเป็นหนึ่งในเครื่องจักรเพียงไม่กี่ตัวที่ทำงานอย่างโดดเด่นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2558 นี้ เห็นได้จาก ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยที่กลับเข้าสู่ภาวะการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในช่วงท้ายปี 2557 ต่อเนื่องมายังไตรมาส 1 ปี 2558 และอาจกล่าวได้ว่า เป็นช่วงที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีจำนวน 7.88 ล้านคน เติบโตร้อยละ 23.5 เมื่อเทียบกับที่หดตัวร้อยละ 9.0 ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2557

            จากสถิติการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยช่วงไตรมาส 1 ปี 2558 ที่ผ่านมา หลายประเทศยังสะท้อนตัวเลขออกมาติดลบซึ่งไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวจากรัสเซีย ซึ่งยังได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจ แต่นักท่องเที่ยวชาวยุโรปจากหลายประเทศก็ยังไม่ฟื้น ซึ่งมาจากหลายสาเหตุทั้งปัจจัยด้านเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอ ประกอบกับค่าเงินยุโรปที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินบาท แต่อย่างไรก็ดีในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2558 ยังสามารถเติบโตได้จากตลาดเอเชีย เพราะไตรมาสที่ 2 นี้เป็นช่วงที่ภาคการท่องเที่ยวไทยเริ่มก้าวเข้าสู่ช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว หรือช่วงโลว์ซีซั่น (Low Season) ซึ่งจะอยู่ในช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ของทุกปี ก่อนที่จะกลับเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวอีกครั้งในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ จะได้รับแรงหนุนจากเทศกาลสงกรานต์ และนับว่าเป็นช่วงที่สำคัญของภาคธุรกิจในการที่จะสร้างเม็ดเงินด้านการท่องเที่ยวก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่นของการท่องเที่ยว สามารถสร้างรายได้สู่ธุรกิจบริการด้านการท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องคิดเป็นมูลค่าปีละประมาณ 2 – 3 หมื่นล้านบาทตลอดระยะเวลาในช่วงของการเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์

             โดยนอกจากภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรมช่วงเทศกาลที่ผ่านมาอย่างเข้มข้น และช่วยให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทยในช่วงเทศกาลกันอย่างคึกคักแล้ว ในช่วงไตรมาส 2 ก็ยังมีการจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง อาทิ การจัดงานมหกรรมสวรรคนักช็อป (Thailand Great Grand Sale) ที่หน่วยงานภาครัฐร่วมกับบรรดาห้างสรรพสินค้าหลายแห่งทั่วประเทศ จัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าสูงสุดถึงร้อยละ 80 ซึ่งน่าจะช่วยดึงดูดและกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวอินเดียที่นิยมเดินทางเข้ามายังประเทศไทยในช่วงดังกล่าว

           ขณะที่ เมื่อมีการประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า น่าจะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ และการทำประกันการเดินทางที่ครอบคลุมทุกรายการคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์  โดยในระยะสั้นน่าจะส่งผลดีต่อตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติระยะใกล้จากภูมิภาคเอเชียที่อาจจะให้เวลาวางแผนการเดินทางล่วงหน้าไม่นานเมื่อเทียบกับตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกลจากภูมิภาคยุโรปหรืออเมริกา ส่วนผลดีระยะถัดไปก็น่าจะเป็นปัจจัยหนุนนำให้นักท่องเที่ยวจากนอกภูมิภาคเอเชียวางแผนเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยในช่วงไฮซีซั่น อย่างไรก็ดี ช่วงต้นไตรมาส 2 นั้น อาจจะมีบางเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาทิ เหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นในแหล่งท่องเที่ยวที่ค่อนข้างเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยว จากกรณีเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้มีความรุนแรง รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงรัฐบาลไทยก็พยายามสื่อสารให้ข้อเท็จจริงกับสาธารณชนเพื่อลดความกังวลทั้งในหมู่นักท่องเที่ยวและผู้คนในพื้นที่ โดยกระทบในส่วนที่เป็นการให้บริการเดินทางออกจากประเทศไทยมากกว่า แต่หากเป็นการใช้บริการสายการบินสัญชาติอื่นก็ไม่จะมีปัญหาในการเดินทางใดๆ

           ทั้งนี้ ทิศทางตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยในช่วงไตรมาส 2 นั้น แม้จะเป็นช่วงที่เข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่นก็ตาม แต่ยังมีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่เลือกเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวระยะใกล้จากภูมิภาคเอเชีย (อย่างจีน อินเดีย และประเทศสมาชิกอาเซียน เป็นต้น) ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยการเติบโตของนักท่องเที่ยวต่างชาติในแต่ละภูมิภาคจะมีความแตกต่างกัน ดังนี้

•  ตลาดนักท่องเที่ยวระยะใกล้จากภูมิภาคเอเชียตะวันออกยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของตลาด

           สำหรับตลาดที่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของการท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ยังคงมาจากนักท่องเที่ยวระยะใกล้จากภูมิภาคเอเชียตะวันออก ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะเป็นนักท่องเที่ยวที่มีการปรับตัวค่อนข้างเร็วต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เนื่องจากเป็นการเดินทางระยะใกล้ การวางแผนการท่องเที่ยวจึงใช้เวลาไม่มาก และแน่นอนว่าตลาดหลักยังคงเป็นนักท่องเที่ยวจากจีนที่ยังเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยอย่างคึกคัก โดยนอกเหนือจากจะเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น กรุงเทพฯ และพัทยา แล้ว

• กลุ่มนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียใต้ตลาดสำคัญในช่วงโลว์ซีซั่น

          คาดตลาดหลักของภูมิภาค คือ ชาวอินเดียจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยประมาณ 2.86 แสนคนในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ นักท่องเที่ยวชาวอินเดียนับว่ามีบทบาทสำคัญต่อตลาดการท่องเที่ยวไทยในช่วงไตรมาส 2 ของทุกปี เนื่องจากเป็นช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน จึงเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจากอินเดียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเป็นจำนวนมาก โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2558 นี้ ตลาดนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจะสามารถกลับมาเติบโตได้ที่ประมาณร้อยละ 16.0 เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 2 ของปี 2557 (ที่หดตัวร้อยละ 15.4) หรือจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 2.86 แสนคน โดยแรงหนุนส่วนหนึ่งมาจากการเดินทางไปโรดโชว์

• ตลาดนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรป

           แม้ตลาดหลักจะชะลอตัวแต่ยังได้ตลาดรองเข้ามาช่วย แนวโน้มของตลาดนัดท่องเที่ยวระยะไกลจากยุโรปในช่วงไตรมาส 2 ของปี คาดว่าสถานการณ์จะทยอยดีขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการที่รัฐบาลประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก แม้ว่าอาจจะยังไม่เห็นผลชัดเจนมากนักสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ในช่วงระยะสั้นนี้ก็ตาม เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ของนักท่องเที่ยวจากยุโรป ประกอบกับการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรปจะใช้ระยะเวลาในการวางแผนค่อนข้างนาน แต่คาดว่าจะเห็นผลดีขึ้นในระยะถัดไป สำหรับในช่วงไตรมาส 2 ปี 2558 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรปอาจจะลดลงประมาณร้อยละ 9.3 เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 2 ของปี 2557 (ที่ติดลบร้อยละ 3.2)  ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากสถานการณ์เศรษฐกิจประเทศรัสเซียยังไม่ฟื้นตัว

• ตลาดจากภูมิภาคอื่นๆ

         คาดว่าตลาดนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคตะวันออกกลางจะกลับมาฟื้นตัวแต่ยังต้องติดตามปัญหาความไม่สงบในภูมิภาค ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติจากภูมิภาคอื่นๆ  อาทิ ตะวันออกกลาง โอเชียเนีย และแอฟริกาใต้ ถึงแม้จะมีขนาดตลาดที่เล็ก (โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 6.8 ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้) แต่มีบางประเทศในกลุ่มตลาดข้างต้นมีกำลังซื้อสูง อาทิ นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นตลาดนักท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ จะมีการใช้จ่ายสูงกว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไป ประกอบกับในเดือนมิถุนายนของทุกปี จะเป็นเดือนที่นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคตะวันออกกลางเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเป็นจำนวนมากกว่าปกติต่อเนื่องไปยังเดือนกรกฎาคมของทุกปี

           อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ประกอบกับปัญหาความไม่สงบในบางประเทศ ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคโอเชียเนีย ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเป็นตลาด ที่สำคัญและติดอยู่ใน 10 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยทั้งในด้านจำนวนและกำลังซื้อ อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เหตุการณ์ภายในประเทศไม่ว่าจะเป็นปัญหาการเมือง ปัญหาความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวได้ส่งผลกระทบต่อความน่าดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยว ชาวออสเตรเลียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย ขณะที่ปัจจัยในเรื่องของค่าเงินออสเตรเลียดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินบาทเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกปลายทางท่องเที่ยว สำหรับทิศทางของนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2558 นี้ คาดว่าจะยังชะลอตัวต่อเนื่อง

           จากบรรยากาศในประเทศและปัจจัยแวดล้อมอื่นอีกหลายประการที่ยังเอื้อต่อการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทยในระยะนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2558 นี้ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยประมาณ 6.20 ล้านคน เติบโตได้ร้อยละ 21.6 เมื่อเทียบกับที่หดตัวประมาณร้อยละ 15.9 ในไตรมาส 2 ปี 2557 ที่ผ่านมา