นำยางพารามาผลิตกระเป๋า Rubberly ตีตลาดโกอินเตอร์


        จากวิกฤติธุรกิจยางพาราของตนเองราคาตกต่ำในวันนั้น เป็นเหตุให้ต้องผลันตนเองสู่ธุรกิจสินค้าแบรนด์เนม Rubberly มาจนถึงวันนี้ โดยนำยางพารามาดัดแปลงให้เป็นกระเป๋าในสไตล์เรียบหรู ที่มาพร้อมกับสีสันสวยงาม มุ่งสู่ตลาดช่องทางการค้าสำหรับคนระดับกลางให้สามารถซื้อง่าย และขายคล่อง ตอบโจทย์วัตถุประสงค์ลูกค้าได้อย่างลึกซึ่ง

        ธุรกิจ Rubberly กระเป๋ายางพาราที่มีให้เลือกซื้อหลายรูปแบบ ทั้งกระเป๋าใส่เครื่องสำอาง กระเป่าใส่อุปกรณ์เครื่องเขียน กระเปาใส่เอกสารต่าง ๆ หรือแม้แต่กระเป๋าทำงาน ฯลฯ ที่โดนใจวัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงานให้เลือกสรร

        ธุรกิจ Rubberly กระเป๋ายางพารานี้ เป็นของคุณภิญโญ  คงสุภาพศิริ และคุณศุภรัตน์  แชน  ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก โดยคุณศุภรัตน์  แชน ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจว่า ครั้นก่อนที่จะหันมาทำธุรกิจ rubberly อย่างเต็มตัวนั้น แต่เดิมคุณภิญโญ  คงสุภาพศิริ ซึ่งเป็นสามีมีอาชีพ Interior นักออกแบบภายใน แล้วทางด้านครอบครัวก็ทำธุรกิจยางพาราอยู่แล้ว จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่งเราได้เห็นข่าวหน้าหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับราคายางพาราตกต่ำ จึงทำให้เกิดความกังวลว่าเราจะทำอย่างไรต่อไปดี ฉะนั้นจึงได้ไอเดียที่จะทำสินค้าจากยางพาราขึ้น แต่ไม่รู้ว่าจริง ๆ ว่าจะผลิตยางพาราให้กลายเป็นสินค้าได้อย่างไร ก็เลยตัดสินใจเข้าไปอบรมกับกรมอุตสาหกรรมเพื่อหาแนวทางของธุรกิจ เมื่อจับทิศทางได้แล้วจึงเริ่มลองถูกลองผิด จนกระทั่งประสบความสำเร็จได้ตัวสินค้าออกมา พร้อมทั้งตั้งชื่อร้านว่า rubberly ที่แปลว่ายางพารา แต่เติมคำว่า ly เพื่อให้คำว่า rubber กลายเป็นไลส์สไตล์ในชีวิต

                

        นอกจากนี้ต้นทุนที่ใช้ในการผลิตครั้งแรกค่อนข้างสูง ซึ่ง 2 ปีมานี้เสียค่าใช้จ่ายทางด้านการตลาดมากพอสมควร อีกทั้งกระบวนการผลิตก็ทำได้ยากอีกเช่นกัน เนื่องจากยางพาราที่เราได้นำมาทำเป็นตัวสินค้านั้น ทำยากมาก โดยเฉพาะในเรื่องของการเย็บ ที่ต้องมีความละเอียด และประณีต เพื่อให้สินค้านั้นออกมาสวยงาม ทั้งนี้ในเรื่องของดีไซต์การออกแบบ ต้องมีการไปสำรวจความต้องการทางด้านการตลาดก่อน ถึงเทรนด์แฟชั่นต่าง ๆ และนำมาประยุกต์ใช้ ซึ่งคุณภิญโญ  จะเป็นผู้ออกแบบ ส่วนตนเองจะดูแลเรื่องของเอกสารต่าง ๆ

        คุณศุภรัตน์  เล่าต่อว่า การเปิดตัวสินค้า rubberly ครั้งแรก ตนได้ไปร่วมงานแฟร์ ซึ่งเป็นงานที่แสดงสินค้าของผู้ประกอบการทั่วประเทศ  และนับว่ามีผลการตอบรับที่ดี ได้ลูกค้ากลับมามากกว่า 100 คน และภายใน 2 ปี ก็มีลูกค้ากลับมาซื่อสินค้าเพิ่มขึ้นอีกด้วย ดังนั้นช่องทางการขายจะมีขายทางหน้าร้านที่ศูนย์กกการค้า Terminal 21 ชั้น 3 ห้อง3023 ใกล้สถานีรถไฟฟ้าอโศก และทาง facebook : Rubberly ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะติดต่อเข้ามาซื้อสินค้าทุกช่องทาง และโดยส่วนมากแล้วมักจะเป็นลูกค้าวัยทำงาน , ชาวต่างชาติ และนักศึกษามากกว่า ทั้งนี้ราคาสินค้าจะเริ่มต้นตั้งแต่ 40 บาทขึ้นไป จนถึงราคา 1,900บาท ซึ่งทางเราจะพยายามผลิตสินค้าให้อยู่ในระดับที่คนไทยสามารถซื้อง่าย และขายคล่อง

              

        สำหรับอายุการใช้งานของกระเป๋ายางพารานั้น จะสามารถใช้งานได้ 5 ถึง 10 ปี แต่ถ้าหากโดนแดดบ่อยสินค้าก็จะเปลือยเร็ว และถ้าเก็บรักษาอย่างดีก็สามารถใช้งานได้นาน ซึ่งข้อดีของกระเป๋ายางพาราคือ เวลาเปื่อนเครื่องสำอาง ขนม หรือน้ำ เราสามารถเช็ดออกได้เลย ไม่เหมือนกับกระเป๋าผ้าทั่วไปที่เปื้อนแล้วไม่สามารถทำความสะอาดออกได้หมด แต่ถึงอย่างไรก็ตามหากให้คำนวณเรื่องของผลกำไร ตอนนี้ยังได้กำไรเข้ามาไม่มากนัก เพราะต้นทุนเบื้องต้นเสียเยอะมาก อาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี ในการปรับตัวให้ดีขึ้น แต่ถ้าให้ประเมินในภาพรวม ถือว่าตอนนี้มีการตอบรับจากลูกค้าค่อนข้างดี

        สำหรับเรื่องของกระบวนการผลิต อย่างที่บอกทางเราได้เป็นผู้ที่ออกแบบดีไซต์ตัวสินค้า แต่จะส่งให้ทางโรงงานเฉพาะด้านเป็นผู้ผลิตแทน โดยใช้Know-howของคุณพ่อเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินธุรกิจด้วย พร้อมทั้งเราต้องคอย control การผลิตให้ดี เพื่อให้สินค้ามีคุณภาพตรงตามความต้องการของกลุ่มลูกค้า ส่วนแนวคิดการขยายธุรกิจในอนาคต ทางเราจะจับตลาดภายในประเทศให้มากขึ้น พร้อมทั้งออกตามงานแฟร์ต่าง ๆ และจะขยายสาขาเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งในขณะนี้ก็มีการส่งสินค้าออกไปขายต่างประเทศในแถบเอเชีย และยุโรป ทั้งมาเลเซีย สิงค์โปร ไต้หวัน นิวซีแลนด์ ออสเตรเรีย เป็นต้น รวมไปถึงในอนาคตยังมีแผนการที่จะดีไซด์เพิ่มลวดลายบนตัวสินค้า เป็นการเพิ่มทางเลือกในการซื้อกระเป๋ายางพารา rubberly ให้มากขึ้น คุณศุภรัตน์  เล่าทิ้งท้าย