รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
นักธุรกิจคือคนที่ทำงานมาให้ได้ซึ่งเงิน ส่วนมากมักจะทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อตมุ่งแต่จะหาเงินเพียงอย่างเดียว นั้นไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องนัก ดังนั้นการเป็นนักธุรกิจมืออาชีพต้องทำอย่างไรอาจารย์สง่า ดามาพงษ์มีคำตอบ
นักธุรกิจที่จะรับทั้งทรัพย์และความสุขนั้นไม่ใช่ทำแต่งานเพียงอย่างเดียวแต่ต้องดูแลลรักษาสุขภาพตัวเองควบคู่กันไปด้วยเช่น คุณจุฑาลักษณ์ เจ้าของจุฑาเล่ค์ คลีนิค นักกีฬาแบดมินตันที่ผันตัวมาทำธุรกิจความงาม และคุณเจต นักธุรกิจเครื่องปรุงแต่งรสและกลิ่นอาหาร แฟรนไชส์ไทเชฟ Thy Chef ผู้ผลิตภัณฑ์ให้กลิ่นและรสธรรมชาติ ซึ่งธุรกิจนี้ได้ดำเนินการก่อตั้งมาแล้ว 13 ปี
คุณสง่า ดามาพงษ์ กล่าวถึงการเป็นนักธุรกิจ SME มีทรัพย์รับสุข ว่า “นักธุรกิจ คือ คนที่ทำงานโดยคำนึงถึงผลกำไรที่มากขึ้นเรื่อย ๆ และยิ่งได้มากขึ้นเท่าไหร่ ก็มีความต้องการมากขึ้นเท่านั้น ทำให้หักโหมกับการทำงานมากเกินไปจนลืมที่จะดูแลสุขภาพของตนเอง ส่งผลให้โรคภัยไข้เจ็บตามมามากมาย ดังนั้นเมื่อทำธุรกิจเก่งแล้วก็ควรดูแลสุขภาพได้ดีด้วย ควบคู่กันไป หลายครั้งที่นักธุรกิจหลายคนมักอ้างว่า ไม่มีเวลา นั้นเป็นเพียงข้ออ้าง หากคุณใส่ใจสุขภาพของตัวเอง แม้เวลาน้อยนิดคุณก็ดูแลตัวเองได้ สำหรับหลักการในการดูแลสุขภาพนั้น มีเพียง 3 ข้อ ที่จะช่วยให้สุขภาพคุณดี คือ
1. ต้องกินให้เป็น รับทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารประเภทของทอด ของมัน และอาหารรสจัด
2. ออกกำลังกาย การออกกำลังกายเป็นที่ทราบว่าช่วยให้สุขภาพดีขึ้น และช่วยให้กระปรี้กระเปร่ามีพลังในการทำงานได้มากขึ้น
3. สะบัดความเครียดให้เป็น นักธุรกิจทั้งหลายแน่นอนอยู่แล้วว่าต้องมีความเครียด แต่ถ้าคุณเครียดคุณควรที่จะสะบัดมันออกให้เป็น เวลาที่รู้สึกว่าเครียด คุณต้องมีสติ”
สำหรับวิธีจัดการความเครียดที่นักธุรกิจที่มีความสุขทำนั้น คุณเจต กล่าวว่า “การทำธุรกิจมีความเครียดอยู่แล้วหากรู้สึกว่าเครียดจะหลับตาและสูดหาใจลึกๆให้ได้เกิดสติจากนั้นค่อยๆคิดถึงต้นเหตุของปัญหาและค่อยๆแก้ปัญหาต่อไป รวมทั้งการใช้คนให้ถูกกับงานและเรียนรู้เรื่องต่างมุมมองจากลูกน้องเป็นบทเรียนชั้นดี”
และธุรกิจมักจะเกิดปัญหาเรื่องความต้องการของแต่ละคนไม่เท่ากัน คุณจุฑาลักษณ์ ได้เล่าถึงวิธีสลัดความเครียดที่ใช้ประจำคือ การออกไปร้องเพลงและการออกกำลังกาย เพราะตนเองนั้นชอบออกกำลังกายและชอบความงามเวลาที่ทำสิ่งนี้จะทำให้เกิดความสุขไปด้วย ทั้งนี้การแบ่งเวลา และการจัดสรรเวลานั้นเป็นเรื่องสำคัญของการทำธุรกิจหากว่าไม่แบ่งเวลาให้เป็นสัดส่วนแล้วการจะทำธุรกิจให้สำเร็จนั้นคงลำบาก สิ่งที่ต้องทำคือการแบ่งเวลาดูแลตัวเองและครอบครัว อย่างน้อยให้เวลากับครอบครัว 1 วันต่อสัปดาห์อยู่กับที่บ้านและใช้เวลาอยู่ร่วมกัน นอกจากนี้ยังต้องแบ่งเวลามาดูแลสุขภาพตัวเองออกกำลังกายและทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผักผลไม้และทานอาหารมื้อเช้าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยเพราะมื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดของนักธุรกิจ
เกล็ดเล็กๆน้อยๆของนักธุรกิจทั้งสองท่านเรื่องอาหารว่างจะเน้นทานผลไม้ ทานแป้งได้แต่ทานในจำนวนน้อย เพราะนักธุรกิจมักจะประชุมบ่อย และจะมีเบรคของว่างเป็นเบเกอรี่และกาแฟที่ต้องปรุงน้ำตาล หรือครีมที่จะทำให้อ้วนและสุขภาพแย่ ดังนั้นควรจะเลิกทานเบรคแบบนี้ และควบคุมการปรุงรสกาแฟใหม่ไม่ตามใจปากจนเกินไปเพราะหากว่าหยุดดื่มกาแฟได้จะน้ำหนักลดลงเป็นผลดีต่อนักธุรกิจ เพราะการที่สุขภาพดีทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้
โดยคุณเจต ใช้หลักการควบคุมอารมณ์ในการทำธุรกิจทำให้อารมณ์แจ่มใส่และทำให้สนุกกับการทำงาน ดังนั้นเงินอาจจะซื้อของสบายได้แต่เงินซื้อชีวิตได้หรือไม่? เป็นคำถามที่คุณควรให้คำตอบตนเอง ถ้าไม่ได้จะทำอย่างไร คุณสง่าบอกอีกว่า “หากหันมาดูแลสุขภาพ และการผ่อนคลายความเครียดก็ได้ คุณก็จะรับทรัพย์และรับความสุขในบั่นปลายอย่างแน่นนอน”