REO’s Deli เมนูอาหารส่ง ที่สร้างความสะดวกต่อการทาน หาซื้อง่ายในร้านแม็กซ์แวลู แฟมิลี่มาร์ท ท็อปส์มาร์เก็ต และเซ็นทรัลฟู้ดส์ฮอลล์ ทั้งเมนูลาซานญ่าหมู เนื้อ และผักโขมอบชีส ส่งผลให้มีผลตอบรับที่ดี จนยอดขายพุ่งเดือนละ 2 ล้านบาท ต้นเดือนกรกฎาคมนี้เตรียมออกเมนูใหม่ ลาซานญ่าแซลมอน ซึ่งเป็นการตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ดี
ธุรกิจ REO’s Deli ของคุณชณา วสุวัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท แวลู ซอร์สซิ่ง จำกัด ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจว่า “ก่อนหน้านี้ผมเคยเป็นลูกจ้างในบริษัทมาก่อน แต่พอเข้าปี 2551 ก็อยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง แรก ๆ ทำธุรกิจด้านรองเท้า กระเป๋า แต่รายได้ไม่แน่นอน เลยปรึกษากับภรรยาว่า เราควรหาธุรกิจที่มีรายได้เข้ามาสม่ำเสมอ ในช่วงนั้นพอดีเพื่อนคนนึงเป็นเจ้าของร้านกาแฟต้องการให้ลองทำอาหารส่งให้ ซึ่งเมนูที่ทำไปเสนอก็คือ ลาซานญ่า ในสมัยนั้นลา ซานญ่าตามร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตก็ถือว่าเป็นความแปลกใหม่เลยก็ว่าได้ ฉะนั้นผมจึงใช้โอกาสนี้มาลองทำลาซานญ่าขายดู และก็มีผลการตอบรับที่ดีมาก และสิ่งนี้เองที่ทำให้เป็นบ่อเกิดแห่งความคิดที่จะหันมาทำธุรกิจนี้อย่าง จริงจัง ถึงแม้ตอนนั้นจะไม่มีความรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ทางด้านเทคโนโลยีอาหารเลยก็ ตาม แต่ด้วยความพยายามจึงตั้งใจทำให้เต็มที่”
“จากนั้นผมจึงเดินหน้าต่อ โดยพัฒนาสินค้าให้ดียิ่งขึ้น แล้วจึงนำสินค้าไปเสนอที่จัสโก้ หรือปัจจุบัน คือ แม็กซ์แวลู เป็นแห่งแรก เนื่องจากตอนนั้นมี 11 สาขา เหมาะกับกำลังการผลิตของเรา พอผ่านไปได้ 1 ปี ผมก็เดินหน้าเข้าไปเสนอเข้าท็อปส์มาร์เก็ต ก็ได้รับการตอบรับที่ดีมาก ทั้งในสาขากรุงเทพและต่างจังหวัด พอช่วงกลางปี 2557 ที่ผ่านมา ผมนำเสนอสินค้าใหม่ให้ทางแฟมิลี่มาร์ท เป็นลาซานญ่าหมูและผักโขมอบชีส ขนาด 100 กรัม ได้รับการตอบรับที่ดีมากๆอีกเช่นกัน พอนึกย้อนกลับไป ตอนแรกที่เราเริ่มผลิตลาซานญ่า เราใช้แค่เตาอบไฟฟ้าเล็กแบบที่ใช้ในบ้าน อบครั้งหนึ่งได้แค่ 30 ชิ้นเท่านั้น”
กว่าจะมาเป็น REO’s Deli ต้องต่อสู้กับอุปสรรค์มาหลากหลาย
คุณชณาเล่าว่า “ผมกับภรรยามีความเชื่ออย่างแรงกล้าว่า อาหารดีๆ ไม่จำเป็นต้องแพง อันนี้เลยกลายเป็นโจทย์สำคัญที่ทำให้เราต้องใส่ใจในรายละเอียดของทุกเมนูที่เราสรรสร้างขึ้นมา เริ่มทำธุรกิจมาแรก ๆ ก็มีอุปสรรค์ในเรื่องการถนอมอาหาร ซึ่งตอนนั้นไม่มีความรู้ในเรื่องนี้เลย แต่เราก็ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม อีกทั้งการเรื่องทำอาหารที่ดี เรื่องของรสชาติต้องคงที่ คุณภาพ และความปลอดภัย รวมทั้งคุณค่าทางด้านโภชนาการด้วย ซึ่งเมื่อก่อนผมเคยเปิดร้านอาหาร แต่ต้นทุนรอบด้านค่อนข้างสูงเลยสู้ไม่ไหว เลยหันมาหารายได้อย่างอื่นแทน รวมไปถึงการทำธุรกิจที่ดีต้องหาช่องทางการตลาดให้เจอก่อน แล้วทีนี้การลงทุนจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะถ้าหากไม่มีกลุ่มลูกค้า ธุรกิจเราก็ไม่รอดแน่”
นอกจากนี้คุณชณายังได้เล่าประสบการณ์การแข่งขันทำอาหารให้ฟังว่า คุณชณาได้เข้าการประกวดทำอาหาร เมื่อปี2012 ซึ่ง ทางแมคโครได้เชิญให้ไปร่วมแข่งขันที่เมืองทองธานี ซึ่งนับว่าเป็นการแข่งขันที่มีแต่มืออาชีพเกือบทั้งนั้น แล้วอาหารที่เขาแข่งกันคือ อาหารประเภทจัดเลี้ยง ซึ่งตอนแรกคุณชณาไม่อยากเข้าลงแข่งเลย แต่เมื่อมีแรงเชียร์เกิดขึ้น และมีเงินสนับสนุนค่าวัตถุดิบ 5,000 บาท ก็เลยตัดสินใจลองลงแข่งขันจริง ฉะนั้นก่อนที่จะลงสนามการแข่งขันคุณชณาและภรรยาได้ช่วยกันวางแผนอย่างรอบคอบ เพราะกติกามีอยู่ว่า ต้องทำอาหาร 6 รายการๆ ละ 4 จานให้เสร็จทันภายในเวลา 2 ชั่วโมง
“ผมกับภรรยามีการวางแผนกันอย่างละเอียดก่อนที่จะลงสนามจริง เพื่อเตรียมความพร้อมให้ดีก่อน ซึ่งผลของการแข่งขันออกมาคือ เราได้รางวัลที่ 1 คณะกรรมการบอกว่า 1. เราแต่งกายถูกต้องที่สุด เพราะภรรยาผม Chef Koong ใส่หมวกครอบผมและปอยผมอย่างถูกต้อง 2. การจัดเก็บวัตถุดิบในตู้เย็น เป็นไป ตามหลักการป้องกันการปนเปื้อน คือ วัตถุดิบที่เป็นผักสดผลไม้วางด้านบน วัตถุดิบพวกเนื้อสัตว์วางชั้นล่างสุด 3. เทคนิคการดัดแปลงสูตรอาหารที่ดี โดยแปลงสูตรอิตาเลี่ยนพานาคอตต้า มาใช้ผงวุ้นเตาฮวยสำเร็จรูปแทน ซึ่งมีคุณสมบัติเซ็ตตัวในตู้เย็นได้เร็วกว่า และ 4. รสชาติอาหารออกมาดี น่าตาน่ารับประทาน”
สุดยอดเมนูของ REO’s Deli
“เมนูอาหารรีโอส์ เดลิ เป็นอาหารตะวันตกสำเร็จรูปพร้อมทาน แช่เย็นที่อุณหภูมิ 2 -5 องศาเซลเซียส ประกอบด้วย ลาซานญ่าหมู เนื้อ และผักโขมอบชีส ช่วงต้นเดือนกรกฏาคมนี้ จะมีสินค้าตัวใหม่ คือ ลาซานญ่าแซลมอน ที่ได้แนวคิดมาจากกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่มาเสนอให้ลองทำดู แต่ตอนนี้เมนูยอดฮิตหลัก ๆ เลยคือผักโขมอบชีส ซึ่งจุดเด่นอยู่ที่ขนาด น่ารับประทาน ราคาไม่แพงมาก เพียงกล่องละ 39 บาท ช่วยให้ลูกค้าประหยัดไม่ต้องไปทานที่ร้านอาหารแพงๆ”
ขนาด 150 กรัม ราคาขายส่งจะอยู่ที่ประมาณ 38-42 บาท ส่วนราคาปลีก 59-65 บาท ซึ่ง REO’s Deli จะแบ่งขายเป็น 2 แบบคือ แบบ 100 กรัมจะขายให้กับแฟมิลี่มาร์ทและแม็กซ์แวลูทันใจ แฟมิลี่มาร์ท ส่วนขนาด 150 กรัม จะส่งขายที่แม็กซ์แวลูและท็อปส์มาร์เก็ต เมื่อก่อนลูกค้าเป้าหมายคือ กลุ่มคุณแม่ที่ซื้อสินค้าไปให้ลูกๆ ทานที่บ้าน หรือตอนนั่งรถไปโรงเรียน แต่ปัจจุบันเราเพิ่มกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยมุ่งไปที่กลุ่มวัยรุ่น อายุ 13-20 ปี และกลุ่มผู้หญิง วัยทำงาน อายุ 21-24 ปีด้วย และเน้นการขายผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อ ที่หาซื้อง่ายขึ้น สามารถอุ่นเวฟ 2 นาทีก็ทานได้แล้ว เรียกว่าสะดวกซื้อ สะดวกกิน ธุรกิจ REO’s Deli มีผลการตอบรับที่ดีมาก สังเกตได้จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นทุกปี เนื่องจากอาหารประเภทนี้มีความต้องการเยอะ และคู่แข่งก็ไม่มากนัก ส่งผลให้มีรายได้เดือนละ 2 ล้านกว่าบาท”
คุณชณา เล่าเพิ่มเติมว่า “ส่วนทางด้านการประชาสัมพันธ์ให้มีคนรู้จักนั้น ผมเน้นการออกแบบแพคเกจจิ้ง เพื่อวางบนเชลฟ์ให้สะดุดตาลูกค้าที่เดินผ่านไปมา และใช้ Facebook page: reo.deli ในอนาคตนี้จะเน้นทำการตลาดที่มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นต่อไป”