รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
เส้นขนมีประโยชน์ต่อร่างกายในการช่วยควบคุมอุณหภูมิ ลดแรงเสียดสี ป้องกันแสงแดด และเพื่อความสวยงาม โดยมีประโยชน์แตกต่างกันไปตามตำแหน่งของเส้นขน แต่บางครั้งขนที่ขึ้นดกดำมากเกินไปก็ทำลายความสวยงามและความมั่นใจ โดยเฉพาะในสาว ๆที่มีขนดกดำบริเวณหน้าแข้ง หรือเหนือริมฝีปาก เป็นต้น ซึ่งอาจเกิดจากผลข้างเคียงของยาที่ใช้ หรือความผิดปกติทางฮอร์โมน
เลเซอร์จึงเป็นวิธีกำจัดขนที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้กันมาก แต่ยังมีคำถามว่าเลเซอร์ขนแล้วร่างกายจะได้รับอันตรายหรือไม่ วันนี้เรานำเรื่องน่ารู้ของการเลเซอร์ขนจากบทความของ รศ.นพ.วรพงษ์ มนัสเกียรติ ศูนย์เลเซอร์ผิวหนังศิริราช มาฝากเพื่อคลายหายข้อสงสัยและข้อกังวลของใครหลายคน
การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ เป็นวิธีการกำจัดขนโดยอาศัยพลังงานความร้อนจากแสงไปทำลายรากขนโดยเฉพาะเจาะจง เซลล์สร้างสีบริเวณรากขนจะทำหน้าที่ดูดรับพลังงานแสง แล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนเพื่อทำลายรากขน ความรู้สึกระหว่างกำจัดขนด้วยแสงคล้ายกับหนังยางดีดบนผิวหนัง เป็นความรู้สึกซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ทนความรู้สึกได้ บริเวณผิวหนังอ่อน ๆ เช่น ริมฝีปาก ขาหนีบจะรู้สึกมากกว่าบริเวณอื่น นอกจากนี้เลเซอร์หลายชนิดมีระบบให้ความเย็นแก่ผิวหนัง ซึ่งสามารถลดอาการเจ็บระหว่างการรักษาได้
ระยะเวลาในการกำจัดขนขึ้นกับตำแหน่ง เช่น บริเวณรักแร้ใช้เวลาเพียง 2 – 3 นาที ส่วนบริเวณแผ่นหลังหรือหน้าแข้งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งหลังจากกำจัดขนแล้วผิวหนังบริเวณรอบรูขุมขนจะแดงและบวมเล็กน้อยภายในระยะเวลา 30 นาทีภายหลังการรักษา ซึ่งอาการนี้จะหายไปเองภายในเวลา 1 วัน การประคบด้วยความเย็นจะช่วยลดอาการแสบร้อนได้ ผิวหนังภายหลังการรักษาจะไม่เกิดแผล ไม่มีเลือดออก และไม่จำเป็นต้องปิดแผล เส้นขนจะค่อยๆ ถูกดันให้หลุดออกจากผิวหนังภายใน 2 สัปดาห์ หลังการรักษา
หลังกำจัดขน คุณสามารถใช้ชีวิตได้ตามปรกติ และควรใช้ครีมกันแดดทาบริเวณที่ได้รับการรักษา ยกเว้นการใช้สบู่หรือครีมที่ระคายเคืองที่ผิวหนัง เช่น Retin-A,AHA ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการออกแดดสักระยะหนึ่ง
การเลเซอร์ขนจึงเป็นวิธีกำจัดขนถาวรที่ไม่เป็นอันตราย แต่ควรอยู่ในความดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่สำคัญคือการปฏิบัติตัวหลังทำเลเซอร์อย่างถูกต้อง คุณก็จะสวยได้อย่างปลอดภัย
ขอบคุณรูปจาก http://2015.n3k.in.th/
