ความแตกต่างนำไปสู่ความสำเร็จกับแนวคิดในการทำตลาด ของ “เจ้าพ่อวงการผลไม้”


ความเป็นมาของตลาด และ ทำไมถึงได้ขึ้นชื่อว่าเจ้าพ่อผลไม้ ??

        ตลาดไอยรา เป็นตลาดมีทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย เริ่มจากความชอบในการค้าขายโดยเริ่มจากการขายที่ปากคลองตลาด เป็นพ่อค้าขายส้ม โดยไปรับส้มจากลุงๆป้าๆมาขาย  เราเลยใช้วิธีในการขายให้กับร้านค้าและตลาดอื่นๆ เหมือนเป็นพ่อค้าคนกลาง ที่มีกำไรส่วนต่างเล็กน้อย พอส้มเริ่มน้อยก็หันไปขายลิ้นจี้ ลำไยแถวภาคเหนือแล้วส่งเข้ามาในกรุงเทพฯ จากนั้นก็กระจายสินค้าจนมีลูกค้าต่างประเทศมาติดต่อ เริ่มส่งตั้งแต่มาเลเซียว สิงค์โปร จีน และอินโดนีเซีย  ปัจจุบันเรามีแฟล่งผลิตอยู่ 11 แห่ง แต่ยังไม่มีทางภาคอีสาน เพราะเราต้องการขายผลไม้ที่สดที่สุดเพื่อส่งออก ทั้งยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการทำให้ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพที่ดีและได้ราคาดีอีกด้วย

วิธีการแก้ไขปัญหาเมื่อผลผลิตไม่เพียงพอ ??

          เราเป็นตัวกลางในการขายสินค้า เมื่อเกิดปัญหานี้ขึ้นมาเรามีวิธีการแก้ไข คือการ การปรับขึ้นราคาผลไม้สำหรับผลไม้ที่มีผลผลิตน้อยแต่ผู้บริโภคมีความต้องการที่มาก  จึงจำเป็นที่จะต้องปรับราคาขึ้น  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฤดูกาลออกผลของผลไม้ และเทศกาลที่ผู้บริโภคต้องการผลไม้ชนิดนั้นเพิ่มขึ้น หากออกมาเยอะราคาก็ตกต่ำ ออกมาน้อยราคาก็จะแพงขึ้น

สาเหตุที่เลือกทำตลาด ??

         คือมีการคลุกคลีอยู่ในตลาดตั้งแต่เกิดเลยมีความเข้าใจว่าพ่อค้าแม่ค้าต้องการอะไร บวกกับความโชคดีที่ได้พื้นที่มาทั้งหมด 86 ไร่ โดยแบ่งเนื้อที่ทำเป็นตลาดผลไม้ 50 ไร่ ตลาดสด 36ไร่ โดยเราจะแยกโซนการขายทำให้ประหยัดเวลาในการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค ทั้งยังช่วยประหยัดปริมาณการขายต่อปีลงได้

ความแตกต่างของตลาดไอรยาที่แตกต่างจากที่อื่น ??

           ในเรื่องของพื้นที่ในการค้าขาย เราอำนวยความสะดวกให้กับพ่อค้าแม่ค้าในการเข้าออกรถในการขนสินค้าที่มีความสะดวกสบาย และได้แบ่งโซนในการขายเป็นตลาดผลไม้ โดยแบ่งเป็น 2 ตลาด ตลาดแรกเป็นผลไม้เขตร้อน เป็นผลไม้ไทยเป็นหลักและผลไม้ของประเทศใกล้เคียง และตลาดที่สองเป็นตลาดผลไม้นำเข้า และมีห้องเย็นหลังตลาดเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับร้านค้า ชั้นที่สองสร้างเป็นห้องเย็นส่วนกลาง สามารถบรรจุสินค้าได้ถึงพันกว่าตัน และด้านข้างตลาดมีลานคอนเทนเนอร์ที่มีความกว้างถึง 52 เมตร

เคล็ดลับที่ทำให้ประสบความสำเร็จ

          พัฒนา และหาความรู้ทางด้านผลไม้แล้วก็มองประเทศที่เจริญ ว่าเค้ามีวิธีการบริหารธุรกิจอย่างไรเอาข้อดีของแต่ละตลาดมาผสมกัน  หลักการใหญ่ คือ ต้องมีความซื่อสัตย์กับลูกค้า และต้องไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาธุรกิจของเราไปเรื่อยๆ  รวมไปถึงการดูแลพนักงานให้เหมือนกับคนในครอบครัว แล้วทุกอย่างจะเป็นในแบบที่เราต้องการเอง

ติดตามรายการ Smart Focus ออกอากาศวันที่ 6 มิถุนายน 2558 เพิ่มเติมได้ที่http://smartsme.tv/vod_detail.php?gid=19&id=3804