กระทรวงอุตสาหกรรมออกประกาศกำหนดให้ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้ารถยนต์เริ่มติด ECO Sticker บนรถยนต์ใหม่ทุกคันตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไป เพื่อให้ผู้บริโภคและประชาชนทั่วไปได้รับข้อมูลสมรรถนะรถยนต์ที่เที่ยงตรง โปร่งใส และเป็นมาตรฐานเดียวกัน ทั้งนี้ยกเว้นให้กับรถยนต์ที่ตกรุ่น และรถยนต์ที่ค้างสต็อก ไม่จำเป็นต้องติด ECO Sticker
เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2558 นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สอศ.) กล่าวถึงการติด ECO Sticker ว่า ขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรมได้ประกาศเรื่อง การแสดงข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากล ตามมติคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปได้รับข้อมูลสมรรถนะรถยนต์ที่เที่ยงตรง โปร่งใส และเลือกซื้อรถยนต์ได้ รวมทั้ง เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของภาครัฐตรวจสอบมาตรฐานรถยนต์และการจัดเก็บภาษีตามโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่
ประกาศฉบับนี้ได้กำหนดให้ผู้ที่จะขอลงทะเบียนที่สามารถขอยื่นป้ายข้อมูลรถยนต์ตามมารฐานสากลหรือ ECO Sticker นั้น ต้องเป็นผู้ผลิตหรือผู้นำเข้ารถยนต์เพื่อจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ อีกทั้ง กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับ ECO Sticker ที่ประกอบไปด้วย รูปภาพ ขนาด และคำอธิบายต่างๆ โดย ECO Sticker จะมีนาดเท่ากับกระดาษA4 ติดไว้ที่กระจกบังลมด้านหน้า หรือไว้ที่กระจกด้านข้าง ในตำแหน่งที่สามารถอ่านข้อมูลจากด้านนอกตัวรถยนต์ได้สะดวกชัดเจน โดยผู้ซื้อรถยนต์หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจเท่านั้น ที่จะมีสิทธิ์ในการปลด ECO Sticker ทั้งนี้ ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า ผู้บริโภคและประชาชนทั่วไปสามารถดาวน์โหลดประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมดังกล่าวได้จากเว็บไซต์ www.car.go.th
นายอุดมฯ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไป ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าจะต้องติด ECO Stickerไว้ที่รถยนต์ใหม่ทุกคัน ก่อนที่จะส่งรถยนต์คันนั้นไปยังผู้จำหน่ายรถยนต์ในเครือข่าย,สถานที่จัดแสดงรถยนต์ และสถานที่จำหน่ายรถยนต์ แต่จะมีการยกเว้นให้กับรถยนต์ตกรุ่นหรือรถยนต์ค้างสต็อก ซึ่งหมายถึง รถยนต์รุ่นที่ผลิตในประเทศที่ได้ยุติสายการผลิตหรือรถยนต์ที่มีการนำเข้าจากต่างประเทศ ตั้งแต่ก่อนวันที่ 1 มิถุนายน 2558 ไม่จำเป็นต้องติด ECO Sticker
ป้ายแสดงข้อมูลรถยนต์มาตรฐานสากล(ECO Sticker) จะประกอบด้วยข้อมูลคุณลักษณะ คุณสมบัติ และสมรรถนะของรถยนต์ตามมาตรฐานสากลของสหประชาชาติ ซึ่งได้รับการตรวจสอบและรับรองโดยประเทศภาคีสมาชิก UN WP29 และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ดังนั้นเมื่อเห็น ECO Sticker ติดบนรถยนต์คันที่ซื้อ ผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ว่า รถยนต์คันนั้นไม่ตกรุ่นหรือค้างสต็อกแน่นอน อีกทั้งยังมั่นใจได้ว่า สมรรถนะต่างๆ ของรถยนต์ที่ปรากฏ ECO Sticker นั้น เช่น อัตราการใช้น้ำมันอ้างอิง (หน่วย ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร) และระดับความปลอดภัยของรถยนต์ คือ มาตรฐานการปกป้องผู้โดยสารในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจากการชนด้านหน้าของตัวรถ มาตรฐานการปกป้องผู้โดยสารในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจากการชนด้านข้าง และมาตรฐานด้านความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ เป็นต้น ได้รับการตรวจสอบและรับรองโดยหน่วยงานที่มีความเชื่อถือ
นอกจากนี้ เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคและประชาชนทั่วไปในการเข้าถึงการแสดงข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากลแนวทางประกาศฉบับนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้กำหนดเปิดตัวเว็บไซต์www.car.go.th ในช่วงเดือนธันวาคม นี้ โดยเว็บไซต์จะเป็นแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับ ECO Sticker รายละเอียดและสมรรถนะจริงของรถยนต์แต่ละคันให้ผู้บริโภคและประชาชนทั่วไป รวมถึงการแสดงข้อมูลอัตราการใช้น้ำมันที่แท้จริงของรถยนต์แต่ละรุ่นที่อยู่บนมาตรฐานเดียวกัน สามารถนำไปเปรียบเทียบประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ได้
ผู้อำนวยการ สศอ. เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีรุ่นของรถยนต์ที่จำเป็นต้องติด Eco Sticker จำนวน 416 รุ่น ประกอบด้วยรถนำเข้า 137รุ่น และรถภายในประเทศ 279 รุ่น และคาดว่าจะมีรถรุ่นใหม่เพิ่มเติมที่จะเข้ามาในอนาคตอันใกล้ และรถรุ่นใหม่เหล่านั้นก็จะต้องมาขอลงทะเบียนเพื่อยื่นขอป้ายข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากล หรือ Eco Sticker กับทางกระทรวงอุตสาหกรรมต่อไป