ผู้นำ “ผู้หญิง” ดียังไงกับธุรกิจครอบครัว


ผศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล คณบดี คณะบริหารธุรกิจ และผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาธุรกิจครอบครัว มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ให้ข้อคิดเห็นในเรื่องของผู้นำผู้หญิงในธุรกิจครอบครัวว่า ธุรกิจครอบครัว บางครั้งมีเรื่องของค่านิยมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เป็นเรื่องของความเชื่อ

ในอดีตที่ผ่านมา การเป็นผู้หญิง หรือ ผู้ชาย มีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร  เราอาจจะเคยได้ยินเรื่องเล่าว่า บางครั้งเวลาจะมอบตัวธุรกิจหรือมอบทรัพย์สมบัติก็มักจะมอบไปที่ทางผู้ชาย  เพราะถือว่าเป็นผู้ที่สืบสายเลือด  ส่วนตัวผู้หญิงมักจะเชื่อกันว่าเป็นลูกที่เมื่อมีครอบครัว เขาก็แต่งออกไปเป็นลูกของครอบครัวอื่น  ซึ่งส่งผลไปถึงการเป็นเจ้าของธุรกิจด้วย ซึ่งในช่วงต้นได้พูดถึงการมอบทรัพย์สิน ซึ่งหุ้นของบริษัท ก็เป็นทรัพย์สินเช่นกัน 

ดังนั้นในอดีตที่ผ่านมา ผู้หญิงจึงไม่ค่อยได้โอกาสในเรื่องนี้สักเท่าไหร่  บางครั้งเวลาแบ่งหุ้นก็เลือกแบ่งให้เฉพาะลูกผู้ชายเท่านั้น นอกจากนั้น ตัวผู้หญิงในอดีตที่ผ่านมาในทางสังคม เรื่องของการยอมรับในการเป็นผู้นำ  มีความเชื่อกันในอดีตว่าผู้ชายมักจะมีภาวะผู้นำสูงกว่าผู้หญิง  ซึ่งก็เป็นจริงบางส่วน  คือผู้ชายก็เก่งในบางสถานการณ์เหมือนกัน  แต่ผู้หญิงก็มีภาวะผู้นำที่น่าสนใจในบางสถานการณ์

มีงานวิจัยเคยไปศึกษามาพบว่า ถ้าหากองค์กรของเราอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เช่นเศรษฐกิจถดถอยเหมือนทุกวันนี้  องค์กรที่มีผู้นำเป็นผู้หญิง มีโอกาสที่จะพาบริษัท  ฝ่าฝันวิกฤต ไปรอดได้อย่างสวยงาม มากกว่าการที่มีผู้นำเป็นผู้ชาย  เพราะผู้หญิงมีความอดทน  ผู้หญิงมีความละเอียด ถ้าหากอยากจะให้ประหยัดผู้หญิงก็ทำได้ดีกว่า ด้วยบุคลิกที่โดดเด่นของผู้หญิงในหลายๆเรื่องเหมือนกัน เขาก็เหมาะที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำในบางสถานการณ์

ทำไมธุรกิจครอบครัวถึงให้สุภาพสตรีมาเป็นผู้นำทางธุรกิจ?

ต้องบอกว่าจริงๆแล้วผู้นำในตัวธุรกิจครอบครัวแต่ละยุคแต่ละสมัย อาจจะไม่เหมือนกัน ในสมัยแรกๆ ก็อาจจะต้องมีลักษณะของการเป็นผู้ประกอบการสูง  การเป็นผู้ประกอบการก็ต้องตัดสินใจเร็ว กล้าได้ กล้าเสีย  แต่พอมาถึงรุ่นที่ 2  ซึ่งอาจจะเป็นกลุ่มพี่น้องทำงานด้วยกัน ตรงนี้ก็ต้องรู้จักทำงานเป็นทีม  พอมาถึงรุ่นที่ 3 ก็ต้องรู้จักเป็นผู้นำในลักษณะของผู้นำเชิงประชาธิปไตย เพราะว่า จะเป็นคนหมู่มากขึ้น แล้วก็เป็นเครือญาติกัน  เพราะฉะนั้นแต่ละยุค แต่ละสมัยก็จะมีความต่างกัน

ทำไมผู้หญิงถึงขึ้นมาเป็นผู้นำในธุรกิจมากขึ้น?

อาจจะไม่ใช่เฉพาะธุรกิจครอบครัว คือธุรกิจทุกประเภท เดี๋ยวนี้ผู้หญิงเก่งขึ้นเยอะ ผู้หญิงได้รับโอกาส ได้รับการยอมรับมากขึ้น  ความสามารถก็เชื่อได้ว่าไม่น้อยกว่าเพศชาย พอคนที่มีความสามารถสูง แล้วได้โอกาส เขาก็สามารถจะเป็นผู้นำ ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง  เพียงแต่ว่าในอดีตเรามักจะคุ้นชินกับผู้นำที่เป็นผู้ชาย  พอหลังๆ เริ่มมีผู้หญิงเยอะขึ้น เราก็รู้สึกว่ามีผู้นำที่เป็นผู้หญิงมากขึ้นเรื่อยๆ  ตรงนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงของสังคม

ซึ่งในธุรกิจครอบครัว ให้โอกาส ผู้นำที่เป็นผู้หญิงมาก  มากกว่าธุรกิจ ที่ไม่ใช่ธุรกิจครอบครัว  เพราะว่าการที่เราจะให้ลูกหลานเราไม่ว่าเขาจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้าหากเขามีความสามารถ เราก็มักจะส่งเสริม ในส่วนข้อจำกัดของผู้หญิงในฐานะผู้นำธุรกิจครอบครัว ก็ต้องยอมรับว่าบางครั้งความแต่ต่างระหว่างผู้นำผู้หญิงกับผู้นำผู้ชาย มีความต่างกัน คือ ผู้ชายด้วยลักษณะของความเป็นผู้ชาย ด้วยฮอร์โมน หรือตัว role model ที่อยู่ในสังคม ผู้ชายก็จะมีบุคลิกไปแบบหนึ่ง ผู้หญิงก็จะมีบุคลิกอีกแบบหนึ่ง  ผู้ชาย โดยทั่วไปอาจจะไม่ได้ถี่ถ้วน ดูรายละเอียดเยอะมากนัก อาจจะเป็นคนกล้าคิด กล้าทำ มีการรับความเสี่ยงได้ในจำนวนที่มากขึ้น ซึ่งตรงนี้เป็นลักษณะร่วมกันของภายชายโดยส่วนใหญ่ 

ส่วนผู้หญิงก็ต้องยอมรับว่ามีหลายเรื่องที่ตรงข้ามกัน อย่างเช่น มีความละเอียดเยอะ ค่อนข้างอาจจะอนุรักษ์นิยม  นอกจากนี้เวลาที่เขาคิดอะไรก็แล้วแต่ เขาจะมองเรื่องที่เป็นระยะยาว มากกว่าคนที่เป็นผู้นำผู้ชาย  นอกจากนั้นเวลาที่เขาตัดสินใจอะไรก็แล้วแต่ จะคิดสองด้าน  แต่สาเหตุที่สำคัญที่สุดคือ ผู้หญิงมีเรื่องในเชิงอารมณ์มากกว่าผู้ชาย ผู้หญิงจะใส่ใจในอารมณ์ ความรู้สึกของผู้อื่นมากกว่าผู้ชายที่เน้นในเรื่องของเนื้อหา

ดังนั้นการบริหารธุรกิจครอบครัวที่มีทั้งศาสตร์ในเรื่องการบริหารจัดการโดยทั่วไป  และมีเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกของคนที่เป็นญาติพี่น้องที่ทำงานด้วยกันด้วย  ผู้หญิงจึงอาศัยจุดแข็งของตนเองตรงนี้ เข้ามาทำให้การบริหารจัดการในธุรกิจครอบครัว เป็นไปด้วยความราบรื่น เข้าอก เข้าใจ  สื่อสารกันอย่างครบทุกมิติ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับธุรกิจครอบครัว