คำพวกนี้ทำให้เรารู้สึกอย่างไร? “แค่คุณมีไอเดียดีๆ ก็มีสิทธิ์รวย” “ขอแค่คุณกล้าฝันเพราะมันคือประตูสู่ความสำเร็จ” “ความสำเร็จของธุรกิจเริ่มที่มีเป้าหมาย” “ทำสิ่งที่ตัวเองรักถึงจะทำธุรกิจได้สำเร็จ” ผมเรียกมันว่า “คำพูดสร้างแรงบันดาลใจ”
ผมว่าบางทีคนที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจ เขามักจะดูว่ามันง่ายไปหมด เขาสังเคราะห์ความยากลำบากออกจากประโยคคำพูด เหลือเฉพาะเนื้อจริงๆ ซึ่งสำหรับผมกลั่นออกมาได้ว่า “นี่คือ…จุดเริ่มต้นของความล้มเหลว”
ผมมั่นใจว่ามี “มนุษย์เงินเดือน” มากมายกำลังคิดว่าสักวันคงต้องออกมาทำธุรกิจ สละความเป็นมนุษย์เงินเดือนก้าวสู่ความเป็น “เถ้าแก่ใหม่” ช่วงเวลาที่ความคิดนี้ผุดขึ้นในหัวมนุษย์เงินเดือน จะเกิดอาการสนใจใคร่รู้ อยากดู อยากทำกับสิ่งที่เห็นสิ่งที่เจอเสมอ และทวีความมั่นใจหนักขึ้น หนักขึ้นจนในที่สุด ตัดสินใจหลุดออกจากวงจรมนุษย์เงินเดือน
เหมือนหลุดพ้น แต่…?
การเริ่มต้นธุรกิจมันไม่ใช่แค่มีความสามารถหาสินค้า มีความสามารถโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย หรือแค่เปิดหน้าร้านแล้วเฝ้ารอลูกค้ามาใช้บริการ มาซื้อสินค้าอย่างที่หลายคนเข้าใจ และหากยังเข้าใจเช่นนี้ ผมขอพูดตรงๆ เลยนะ นับจากบรรทัดนี้ขอให้ทิ้งความคิดการเป็นนักธุรกิจ และกลับไปเป็นมนุษย์เงินเดือนเหมือนเช่นเคยเหมาะแล้ว
เบื้องหลังคำพูดสร้างแรงบันดาลใจเหล่านี้ มีความยากลำบากซ่อนอยู่ มีความซับซ้อนที่ต้องคลี่ออกมาจัดลำดับความสำคัญ ต้องใส่ความทุ่มเทและศรัทธาลงไปทุกขั้นทุกตอน เคยสังเกตไหมครับ พอเราเข้าร่วมสัมมนาฟังผู้ประสบความสำเร็จทีไร จบการสัมมนาเรามีไฟพลุ่งพล่านอยากออกไปสร้างความสำเร็จทุกครั้ง แล้วผลจากนั้นล่ะ…?
นี่ไงผมบอกว่าหลายคนกำลังก้าวเข้าสู่ “จุดเริ่มต้นของความล้มเหลว” เพราะเบื้องหลังคำพูดสร้างแรงบันดาลใจของผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้มักไม่มีใครเลยที่กล่าวถึงความยากลำบาก ล้มเหลว ล้มลุกคลุกคลาน ก่อนที่จะสำเร็จทุกคนล้วนมีบาดแผลของความล้มเหลวทั้งสิ้น ตั้งแต่เริ่มคิดทำธุรกิจ เริ่มก้าวหลุดจากความเป็นมนุษย์เงินเดือน แล้วออกมาลุยธุรกิจเต็มตัว แล้วอะไรคือเบื้องหลังก่อนคุณประสบความสำเร็จ? ก่อนเริ่มต้นธุรกิจควรรู้ 3 เรื่องที่จำเป็นมากๆ สำหรับการเริ่มต้นธุรกิจ
1. ความรู้ ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ในสิ่งที่จะทำ กำลังทำ และลงมือทำ ยิ่งลึกมากจะยิ่งพลาดน้อย ถามว่าต้องรู้อะไร ต้องรู้จักเครื่องมือในการคิด เครื่องมือในการทำ เครื่องมือในการควบคุมตรวจสอบ เครื่องมือทุกเครื่องมือในโลกธุรกิจนั้น ทันความรู้ (ทางธุรกิจ) ทันความคิด (ลูกค้าเป้าหมาย) ทันความเปลี่ยนแปลง (สภาพแวดล้อมธุรกิจ) สรุปรู้ทันหมดหรือยัง? ตอบตัวเองครับ!
2. เป้าหมายธุรกิจที่คมชัดจนเห็นเป็นภาพ ต้องชัดขนาดนั้นไม่อย่างนั้นจะเรียกเป้าหมายไม่ได้ เคยแค่ตั้งเป้าหมายแบบทั่วไป ธุรกิจขายได้ปีละ 10-20 ล้านก็พอ แต่พอลงมือทำจริงแทบกระอักเลือดกว่าจะได้สักล้าน ถามว่าเพราะอะไร? เพราะ “เป้าหมายสัมพันธ์กับเครื่องมือ” แปลว่า เป้าหมายธุรกิจสัมพันธ์กับการจัดการ การเงิน การผลิต การขาย
มันต้องสะท้อนเป้าหมายร่วมกัน เป้าหมาย 100 ล้าน กำลังผลิตถึงไหม เงินหมุนเวียนพอให้ผลิตได้หรือเปล่า ช่องทางการขายมากพอหรือเปล่า กลุ่มเป้าหมายให้ความสนใจหรือเปล่า กลยุทธ์ต้องเข้าเจาะลูกค้าของคู่แข่งทำอย่างไร สรุปเป้าหมายชัดคมจนเป็นภาพหรือยัง? ตอบตัวเองครับ!!
3. พันธมิตรธุรกิจ มีมากแค่ไหน? ยุคปู่ย่าตายายค้าขายคนเดียวเลี้ยงพ่อแม่ได้ มายุคพ่อแม่ค้าขายช่วยกันเลี้ยงเรามาได้ พอมาถึงยุคเรา แค่เรากับแฟนไม่พอเสียแล้ว เพราะโลกเปลี่ยนเร็ว พฤติกรรมคนเปลี่ยนเร็วมาก ทำให้วงจรสินค้าสั้นมากขึ้น แข่งขันสูงขึ้น แรงขึ้น น้อยมากที่จะประสบความสำเร็จด้วยตัวคนเดียว แทบจะไม่เห็นอีกเลยที่จะประสบความสำเร็จโดยไม่มีเบื้องหลังพันธมิตร
เพื่อนในรุ่น เพื่อนในสมาคม เพื่อนในกลุ่มการค้า เพื่อนที่เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงาน เพื่อนที่เป็นสื่อสารมวลชน เพื่อนเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้…สรุปมีเพื่อนมีพันธมิตรแบบนี้หรือเปล่า? ตอบตัวเองครับ!!!
“ความสำเร็จในธุรกิจมีที่มาที่ไปไม่ใช่เพราะโชคช่วยนะครับ” และจำไว้นะครับว่า “แรงบันดาลใจไม่มี” มีแต่ “ใจบันดาลแรง” จะทุ่มเท จะสำเร็จ จะร่ำรวยล้วนอยู่ที่ใจ ที่สร้างแรงให้คุณสำเร็จจริงๆ