รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
นอนกรนเป็นสัญญาณเตือน…
นอนกรนมี2ชนิด
1.กรนแบบไม่อันตราย ไม่มีผลเสียต่อสุขภาพ แต่สร้างความรำคาญให้แก่คนใกล้ชิด
2.กรนแบบอันตราย มีผลเสียต่อร่างกายเนื่องมาจากการอุดตันของทางเดินหายใจขณะหลับและระบบส่วนกลางผิดปกติ อาการนอนกรน ส่วนมากจะเกิดกับเพศชายร้อยละ 25% เกิดกับเพศหญิงร้อยละ15% จะพบมากในบุคคลที่มีอายุประมาณ35-40ปี
-เสียงกรนเกิดจากอากาศเคลื่อนผ่านทางเดินหายใจที่แคบ ส่วนบนจึงทำงานผิดปกติในขณะนอนหลับ กล้ามเนื้อบริเวณเพดานอ่อน ลิ้นไก่ ผนังคอหอย หรือโคนลิ้น ทำให้เกิดการสั่นสะเทือน
-เกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจส่วนบนจากต่อมทอนซิล
-การนอนกรนอาจส่งผลให้ง่วงมากผิดปกติในเวลากลางวัน
-หญิงที่มีรอบคอเกินกว่า 15 นิ้ว
-ลักษณะทั่วไป ที่เกิดอาการนอนกรน เช่น คอสั้น อ้วน น้ำหนักมาก มีความผิดปกติในลักษณะโครงสร้างของใบหน้า เช่น คางเล็ก ถอยร่นมาด้านหลัง หรือแม้กระทั่งการดื่มสุรา ยาคลายเครียดยานอนหลับทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการอ่อนแรงนอกจากนี้แอลกอฮอล์และยายิ่งมีผลกดการทำงานของสมองให้ช้ากว่าปกติการสูบบุหรี่
-กรรมพันธุ์ ตรงนี้อาจจะแก้ได้ยากหรือทำให้เบาลงหรืออาจจะไม่มีทางแก้เลย
วิธีแก้อาการนอนกรน
-ดื่มน้ำผึ้งผสมน้ำหนึ่งช้อนโต๊ะก่อนนอน
-อย่ารับประทานอาหารหนักสามชั่วโมงก่อนนอน
-อย่านอนหมอนที่นุ่มมากๆ
-หลีกเหลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
-หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่หรือใกล้ชิดควัน
-ป้องกันการนอนหงาย(จะกรน) มีวิธีนำเอาลูกเทนนิส 2-3 ลูกมาใส่ถุงผ้าแล้วเย็บติดกับเสื้อที่ใส่นอนเพราะตอนนอนหงายเราจะลำบากแล้วจะต้องนอนตะแคงแทนไปเอง
-ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
-หากเป็นมากต้องรีบไปหาหมอ ให้หมอตรวจความผิดปกติ
ขอบคุณรูปภาพจากhttp://p1.s1sf.com/