การทำงานหนักพักผ่อนไม่เพียงพอของคนปัจจุบัน เป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคได้มากมาย โดยเฉพาะภาวะอ่อนเพลียซึ่งเชื่อว่าหลายคนมักมีอาการเหล่านี้ แต่ถ้าหากเกิดอาการนี้กินระยะเวลานาน อาจเสียงเป็นโรคอ่อนเพลียเรื้อรัง หรือ Chronic Fatigue Syndrome ซึ่งเป็นภาวะกลุ่มอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง จัดเป็นโรคชนิดหนึ่ง หากคุณเริ่มมีอาการอ่อนเพลียในระยะเวลานาน ให้สังเกตอาการที่เกิดขึ้นร่วมกัน ดังนี้
1.ความจำแย่ลง
2.รู้สึกเหมือนนอนไม่เพียงพอตลอดเวลา
3.ปวดเมื่อยร่างกายตลอดเวลาต่อเนื่องนานเกิน 6 เดือน
อาการแทรกซ้อนของคนที่เป็นโรค Chronic Fatigue Syndrome คือ มีภาวะซึมเศร้า รู้สึกไม่มั่นใจ ไม่อยากเข้าสังคม จนหนักเข้าอาจจะทำให้ขาดงานบ่อย หรือไม่อยากทำกิจกรรมอะไร สาเหตุของโรคนี้นิยามของแพทย์แผนปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่อาจพบว่าเกิดจากการติดเชื้อไวรัส การทำงานของระบบฮอร์โมนผิดปกติ การทำงานของระบบภูมิต้านทานผิดปกติ แต่ทรรศนะจากนายแพทย์อุกฤษ จิรภัทรสุนทร เบญจบริรักษ์เวช คลินิก ได้ให้ความเห็นไว้ว่า “โรคนี้เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากร่างกายไม่แข็งแรง” คนเราปกติวัดความแข็งแรงจาก 4 องค์ประกอบ
1.โครงสร้างร่างกายปกติ เส้นเอ็น กระดูก กล้ามเนื้อปกติ
2.ระดับโมเลกุล ร่างกายมีสารพิษมากหรือไม่ และมีสารอาหารเพียงพอหรือไม่
3.ระดับพลังงาน พลังงานในแพทย์แผนจีน คือลมปราณและเลือด หากลมปราณและเลือดไหลเวียนดี ร่างกายจะทำงานได้เป็นปกติ ถ้ามีการไหลเวียนติดขัดในบางระบบ จะทำให้เกิดความอ่อนเพลียหรือปวดได้
4.ระดับข้อมูลที่ได้รับถ่ายทอดมา ได้แก่ กรรมพันธุ์ และความเครียด โดยเฉพาะความเครียดมีผลโดยตรงต่อร่างกาย มีการวิจัยพบว่าความเครียดทำให้สมองเราหลั่งสารพิษที่ทำให้ร่างกายอักเสบ ทำให้เซลส์เสื่อมและอ่อนล้าง่าย
คนที่เป็นโรค Chronic Fatigue Syndrome แพทย์แผนปัจจุบันมักจะให้ยาทางจิตเวชหรือให้ยานอนหลับ เพื่อให้คนไข้ได้พักผ่อน หรือการทำกายภาพบำบัดเพื่อช่วยรักษากล้ามเนื้อบรรเทาปวด แต่ในการรักษาต้องมองให้ครอบคลุมว่ามีสาเหตุจากอะไร ถ้าสามารถดูแลรักษาได้ครบทั้ง 4 องค์ประกอบข้างต้นก็ช่วยให้อาการของโรคนี้ทุเลาหายดีขึ้นได้
ขอบคุณรูปจาก http://www.pattanakit.net/