รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
“เงินทองไม่เข้าใครออกใคร” ยังสามารถนำมาใช้ได้ทุกยุค ทุกสมัย ยิ่งเป็นยุคที่เงินทองมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิต เงินใครหามาได้ ก็ต้องรักต้องหวงเป็นเรื่องปกติ เรื่องเงินทองของนอกกายที่สามารถทำลายความสัมพันธ์อันดีนั้นก็มีให้เห็นไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นญาติ พี่น้อง เพื่อนฝูง หรือแม้แต่คนรัก ต้นเหตุที่ทะเลาะกันก็คือเงิน เพราะฉะนั้นหากคุณไม่อยากเป็นหนึ่งในนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจแต่งงานร่วมหอกับใครสักคนคุณก็ควรมีการพูดคุยเรื่องเงินทองของทั้งคู่ให้แจ่มแจ้งกันไปเลยว่า จะจัดการมันอย่างไร หลังจากที่แต่งงานแล้ว โดยทั่วไปเงินทองจะมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับสิ่งต่อไปนี้
1. สัญญาก่อนสมรส
เป็นข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดการทรัพย์สินระหว่างคู่สมรส ว่าบริหารทรัพย์สินที่ต่างคนต่างมีอยู่กันอย่างไร หรืออาจจะไม่ทำสัญญานี้ก็ได้ ข้อดีของการจัดทำสัญญาก่อนสมรส คือ ทำให้เกิดความชัดเจนของอำนาจการจัดการทรัพย์สินระหว่างกัน เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย
2. ทะเบียนสมรส
ในปัจจุบันนี้ คู่รักไม่ได้ใส่ใจต่อเรื่องนี้สักเท่าไหร่ จะจดหรือไม่จดก็ได้ ยิ่งไม่มีลูกด้วยกันแล้ว ยิ่งไม่ใส่ใจเลย เพราะว่าบางคู่อาจคิดว่า การจดทะเบียนสมรสด้วยกันแล้ว จะเกิดปัญหาเรื่องทรัพย์สินที่ตามมา เช่น เรื่อง มรดกที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีมาอยู่ก่อน แล้วห่วงว่าทรัพย์สอนทั้งหมดจะกลายเป็นสินสมรสไป หรือหากมีปัญหาการหย่าร้างเกิดขึ้นก็จะมีปัญหาเกี่ยวกับเงินทองตามมาให้ปวดหัว ยุ่งยาก เพราะ ต่างคิดว่า หาเงินมาได้มากกว่า จะแบ่งครึ่งกันได้อย่างไร แต่การจดทะเบียนสมรสก็เอื้อประโยชน์ ให้แกคู่สมรสได้มากเช่นกัน
โดยเฉพาะตอนมีลูกด้วยกัน สิทธิประโยชน์ต่างๆ จะตามมาในแง่ของกฎหมายและสังคม ถ้ามีลูกด้วยกันแล้วไม่มีใบทะเบียนสมรส ลูกก็จะกลายเป็นลูกนอกสมรส ที่จะก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆตามอีกเช่นกัน ทางที่ดีแต่งงานกันแล้วก็ควรจดทะเบียนสมรสให้ถูกต้องจะดีกว่านะคะ
3. การแบ่งบัญชีการเงิน
การอยู่ร่วมกันแบบชีวิตคู่มีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นร่วมกัน ในค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นนั้น คุณและคู่รักต้องช่วยกันรับผิดชอบ แต่ต่างคนก็ควรมีบัญชีเป็นของตัวเองไว้ด้วย เพื่อการใช้จ่ายส่วนตัว โดยที่คุณกับคู่รักอาจจะแบ่งบัญชีเป็น 2 ประเภทคือ
1. บัญชีส่วนตัว ของแต่ละคนเป็นการออมเงินส่วนตัว เพื่อใช้จ่ายในอนาคตหรือใช้จ่ายส่วนตัว
2. บัญชีรวม เป็นบัญชีที่รวมเงินของคุณทั้งสองเข้าด้วยกัน ซึ่งบัญชีรวมอาจแตกแยก ไปเป็นบัญชีอื่นได้อีก เช่น บัญชีค่าเลี้ยงดูบุตร ค่าบ้าน เป็นต้น
………………………………………………………………………………………………………..
แม้เรื่องเงินจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ในการใช้ชีวิตคู่ แต่เรื่องเงินนับเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ทั้งสองคนใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างราบรื่นนะคะ
