สาระน่ารู้ในฉบับนี้ ผมขอนำเสนอแนวคิด “คอนโดฯ ไม่บานครึ่งราคา” โดยผมตั้งชื่อโครงการนี้ว่า “THE CHIVA” (เดอะชีวา) ซึ่งจะว่าไปแล้วโครงการนี้ผมได้คิดอย่างเงียบๆ มานานหลายปี เหมือนกับเป็นการทดสอบ “สมมติฐาน” อะไรบางอย่างที่ค้างคาอยู่ในใจลึกๆ ของผม เพราะผมอยากรู้ว่าจุดที่เหมาะสมของการลงทุนใน “คอนโดมิเนียม (งบ) ไม่บาน” นั้นจะอยู่ที่ตรงไหนกันแน่
ราคาที่แท้จริงของ “คอนโดมิเนียม (งบ) ไม่บาน” ที่เป็นต้นทุนจริงๆ นั้นจะอยู่ที่ราคาเท่าไหร่กันแน่ และพื้นที่ใช้สอยที่เหมาะสมต่อยูนิตนั้นควรจะเริ่มต้นสักกี่ตารางเมตร และขนาดของ “คอนโดมิเนียม (งบ) ไม่บาน” นั้นควรจะมีขนาดเท่าไหร่กันแน่ และมีอีกหลายต่อหลายคำถามที่ผมต้องการคำตอบ ทำให้ผมนึกถึงคำพูดของอาจารย์ผม “โปรเฟสเซอร์แฮมมิลตัน” ที่ “คิงส์คอลเลจ” ได้สอนกับผมไว้ว่า
“You Do Know What You Do Know” ซึ่งแปลเป็นไทยแบบตรงตัวว่า “คุณรู้ว่าคุณรู้อะไร” นอกจากนั้นท่านยังได้สอนผมอีกว่า “You Do Know What You Do Not Know” ซึ่งหมายความว่า “คุณรู้ว่าคุณไม่รู้อะไร” และประโยคที่ 3 ที่สำคัญที่สุด คือ “You Do Not Know What You Do Not Know” ซึ่งหมายความว่า “คุณไม่รู้ว่าคุณไม่รู้อะไร”
จะว่าไปแล้วในโลกแห่งความเป็นจริงก็มีเพียง 3 ประโยคนี้เท่านั้นแหละครับที่สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้หรือน้อยไปกว่านี้ครับ
สำหรับ THE CHIVA ซึ่งเป็นโครงการ “คอนโด ฯ ไม่บานครึ่งราคา” นั้น พื้นที่ใช้สอยต่อยูนิตที่ผมได้ทำการศึกษาแล้วเชื่อว่าน่าจะลงตัวและเหมาะสมที่สุดน่าจะเป็นพื้นที่ขนาด 30 ตารางเมตร โดยมีฟังก์ชั่นการใช้สอย 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 แพนทรี่ (บริเวณเตรียมอาหาร) และที่รับประทานอาหาร น่าจะเป็น “Best Practice” ที่ลงตัว
และเป็น “Best Model” ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตใน “คอนโดมิเนียมไม่บาน” ที่เหมาะสมที่สุด และมีมาตรฐานชีวิตที่น่าจะลงตัวที่สุด เพราะแต่ละยูนิตมีพื้นที่ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป คือมีพื้นที่ใช้สอย 30 ตารางเมตรโดยประมาณครับ
ในปัจจุบันราคาโดยเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมทั่วไปบนทำเลที่เป็นย่านชุมชนที่ไม่ไกลนักจากแหล่งงาน การคมนาคมสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกสบาย มักจะมีราคาขายโดยเฉลี่ย 40,000-50,000 บาท/ตารางเมตร ซึ่งบรรดาโครงการทั่วไปในท้องตลาดส่วนใหญ่ก็ขายกันในราคานี้แหละครับ
ดังนั้นคอนโดฯ ที่มีพื้นที่ใช้สอยต่อยูนิต 30 ตารางเมตร ขนาด 2 ห้องนอนของผมก็น่าจะมีราคาขายอยู่ที่ประมาณ 1,200,000-1,500,000 บาท ซึ่งโจทย์ที่ผมตั้งไว้ยากมากครับว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะสามารถกดต้นทุน “คอนโดฯ ไม่บานครึ่งราคา” ให้เหลือ 500,000 บาทต่อ 1 ยูนิตครับ
แนวคิดดังกล่าวได้นำไปสู่กระบวนการพิสูจน์ “สมมติฐาน” ของผมครับ แต่ในใจลึกๆ ผมมี “ความเชื่อมั่น” และ “ความศรัทธา” อันเกิดจาก “Myth” และ “Mindset” ของผมว่าสามารถเป็นไปได้ เพียงแต่จะยากสักหน่อยเท่านั้น แต่ก็คงไม่ยากจนเหลือบ่ากว่าแรง ในใจลึกๆ ก็อยากรู้นะครับว่าจะทำได้หรือทำไม่ได้ หรือหากทำได้ก็จะต้องวางแผนในการลงมือทำอย่างไรดี
วิธีเดียวเท่านั้นครับที่จะตอบได้ คือ ต้องลองลงมือทำดูครับ เลยกลายเป็นที่มาของ “คอนโดฯไม่บานครึ่งราคา” โดยผมตั้งชื่อโครงการนี้ว่า “THE CHIVA” ที่สามารถจัดได้ว่าเป็น “นวัตกรรม” ใหม่ล่าสุดทางการลงทุนใน “อสังหาฯ ไม่บาน” ที่ “คุ้มค่าราคาประหยัด” หรือที่ผมมักเรียกว่า “Budget Real Estate” ซึ่งในอนาคตก็ไม่แน่นะครับ “THE CHIVA” อาจจะเป็น “ต้นแบบ” ของ “คอนโดฯ ไม่บาน” ทั้งปวง
ยิ่งผมได้ลงมือทำมากเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นทุกขณะ เพราะความฝัน และความหวังอันเป็นของฟรีของผมใกล้จะเป็นความจริงขึ้นมาทุกทีแล้ว อีกไม่นานหลังจากออกแบบและเขียนแบบพิมพ์เขียวเสร็จอีกไม่นานเกินรอ พอยื่นขออนุญาตปลูกสร้างผ่าน คงจะได้เริ่มลงมือตอกเข็มภายในเร็ววันครับ
ถึงแม้ “THE CHIVA” ซึ่งเป็นโครงการนำร่องจะเป็น “คอนโดฯ ไม่บาน” ที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก มีห้องพักไม่กี่ห้อง (ประมาณ 66 ยูนิต) แต่สำหรับผมและทีมงาน “อัศวินอสังหาฯ” ก็มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งครับ
นอกจากนั้นผมเชื่อว่าหากโครงการ “THE CHIVA” ประสบผลสำเร็จก็จะสามารถช่วยบรรดา “SME” เล็กๆ ประเภท “เบี้ยน้อย หอยน้อย” และมีสภาพคล่องไม่มากนักที่จะลงทุนในอสังหาฯ ให้สามารถยืนหยัดอย่างองอาจท่ามกลางกระแสที่เชี่ยวกรากของการแข่งขันกันในระบบ “ทุนนิยม” ดังเช่นปัจจุบัน
สำหรับโครงการ “THE CHIVA” ซึ่งเป็น “คอนโดฯ ไม่บานครึ่งราคา” ของผมและของบรรดา “อัศวินอสังหาฯ” ต่างก็ได้ทุ่มเททั้งกำลังสติปัญญาและความสามารถ ตลอดจนทุ่มเททรัพยากรที่มีอยู่ทำการพัฒนาจน “ตกผลึก” และเชื่อได้ว่าโครงการ “THE CHIVA” ของผมน่าจะเป็น “Best Practice” และ “Best Model” ของ “คอนโดฯไม่บานครึ่งราคา” ที่สามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้กันอย่างแพร่หลายได้ในอนาคตครับ
