คุณแม่ที่คลอดลูกแล้วมักวุ่นวายอยู่กับการเลี้ยงดูลูกจนลืมดูแลสุขภาพตัวเองหลังคลอด ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพคุณแม่หลังคลอดได้ ดังนั้นการตรวจหลังคลอดและดูแลสุขภาพของตัวเองของคุณแม่จึงเป็นสิ่งจำเป็น วันนี้ขอนำความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพคุณแม่หลังคลอด สาระดี ๆจากกรมอนามัยมาฝากคุณแม่มือใหม่ทุกท่านให้มีสุขภาพดีกันถ้วนหน้า โดยสิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องปฎิบัติมีดังนี้
1.ตรวจสุขภาพหลังคลอดตามเวลานัด การตรวจหลังคลอดและดูแลสุขภาพของตัวเองของคุณแม่จึงเป็นสิ่งจำเป็น การตรวจหลังคลอดโดยปกติทั่วไปทางสถานบริการจะนัดตรวจคุณแม่หลังคลอดใน 7-14 วันและเมื่อครบ 45 วัน หรือที่เรียกว่าหลังคลอด 6 สัปดาห์ ซึ่งจะเป็นการตรวจภายในหลังคลอดเพื่อดูความแข็งแรงของร่างกายว่ากลับเข้าสู่สภาพปกติหรือไม่ คุณแม่หลังคลอดจะได้รับการดูแลตรวจหลังคลอด ดังนี้
-การตรวจสุขภาพทั่วไป คือ ชั่งน้ำหนัก วัดความดันโลหิต เป็นสิ่งแรกที่ต้องตรวจปกติหลังคลอด 7-14 วัน และเมื่อครบ 45 วัน น้ำหนักคุณแม่ควรลดลงประมาณ 5-10 กิโลกรัม ส่วนความดันโลหิตควรอยู่ในระดับปกติ ถ้าพบว่ามีระดับความดันโลหิตสูงอาจได้รับการควบคุมอาหาร และการออกกำลังกายก่อน
-การตรวจเต้านม เพื่อดูว่าเต้านมมีความผิดปกติหรือไม่
-การตรวจหน้าท้อง เพื่อดูความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหน้าท้อง หรือกรณีผ่าตัดคลอด ดูแลแผลผ่าตัดว่าหายดีหรือไม่ ซึ่งปกติแล้วแผลคลอดไม่ว่าจะคลอดเองหรือผ่าคลอดมักจะหายภายใน 1 สัปดาห์หลังคลอด ซึ่งอาการปวดแผลหลังคลอดจะมีอาการปวดประมาณ 3-4 วัน หรืออย่างมาก 1 สัปดาห์ และจะค่อยทุเลาลง หากแผลฝีเย็บอักเสบ บวมแดง กดเจ็บ ควรกลับมาปรึกษาแพทย์ทันที
2.ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆไม่ปล่อยให้อับชื้น ซึ่งเป็นสาเหตุของการติดเชื้อ เนื่องจากหลังคลอดจะมีเลือดออกจากช่องคลอด ซึ่งเป็นการลอกตัวของผนังมดลูกจะมีลักษณะสีแดงและค่อยจางลงภายใน 14 วันหลังคลอดและจะหมดลงหลังคลอดไปแล้ว 6 สัปดาห์ สำหรับการดูแลน้ำคาวปลาและแผลฝีเย็บ ควรเน้นทำความสะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ ไม่ปล่อยให้อับชื้นเพราะอาจจะมีการติดเชื้อได้
3. คุณแม่หลังคลอดควรพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงในช่วงกลางคืน ครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงในช่วงกลางวัน ภายหลังคลอด 6 สัปดาห์ไม่ควรทำงานหนัก ซึ่งจะมีผลกระทบต่ออวัยวะภายในและแผลฝีเย็บได้
4.การมีเพศสัมพันธ์ควรมีเพศสัมพันธ์หลังคลอด 6 สัปดาห์ ดังนั้นคุณแม่ควรวางแผนครอบครัวที่เหมาะสมและมาตรวจหลังคลอดตามนัด
5.ควรมีการบริหารร่างกายหลังคลอด เพื่อความกระปรี้กระเปร่าสดชื่นอยู่เสมอ ส่งเสริมการขยับของอวัยวะภายในและการเข้าอู่ของมดลูกได้เร็วขึ้น ที่สำคัญควรอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก
หากมีอาการผิดปกติควรมาพบแพทย์ ได้แก่ มีไข้ ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว เต้านมหรือแผลฝีเย็บอักเสบ น้ำคาวปลาผิดปกติ หรือมีแดงสดตลอด มีปริมาณมาก มีกลิ่น คัน ปัสสาวะแสบขัด หากมีอาการดังกล่าวข้างต้นอย่างใดอย่างหนึ่งให้พบแพทย์ทันที
ดังนั้นคุณแม่หลังคลอดควรมาตรวจหลังคลอดทุกครั้งที่มีนัดหมายกับสถานบริการ เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณแม่และสามารถดูแลสมาชิกใหม่ได้อย่างมีความสุข
ขอบคุณรูปจาก http://www.maerakluke.com/