เมื่อเกิดอาการบ้านหมุน ต้องทำอย่างไร ?


      อาการบ้านหมุนเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย ซึ่งหากมีอาการเกิดขึ้นระหว่างทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ขับรถ ปีนเขา  ว่ายน้ำ  ขณะข้ามถนน ฯลฯ อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงถึงแก่ชีวิตได้ 
       บ้านหมุน จะมีอาการเวียนศีรษะ  คลื่นไส้  อาเจียน หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม  หูอื้อ  มีเสียงในหู  การทรงตัวลำบาก  รู้สึกว่าสิ่งแวดล้อมรอบตัวหมุนทั้งที่ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ซึ่งส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าสาเหตุเกิดจากน้ำในหูไม่เท่ากัน ซึ่งจากการศึกษาพบว่าสาเหตุโดยรวมที่ทำให้เกิดอาการบ้านหมุนเป็นเรื่องเกี่ยวกับหูร้อยละ 50 ส่วนอีกครึ่งหนึ่งนั้นสาเหตุเกี่ยวกับเรื่องนอกหู เช่น ความดันโลหิตสูง  ไมเกรน  เมารถ  เมาเรือ  ใช้ยาฆ่าเชื้อบางชนิด เป็นต้น ดังนั้นการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้องจึงมีความสำคัญ หากคุณมีอาการบ้านหมุนไม่ควรคาดเดาอาหารแล้วซื้อยามารับประทานเอง แต่ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉยหาสาเหตุเพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง
 แม้โรคบ้านหมุนไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิต แต่หากอาการบ้านหมุนเกิดขึ้นในระหว่างทำงานหรือทำกิจกรรมต่าง ๆโดยเฉพาะผู้ที่กำลังขับรถ ทำงานกับเครื่องจักรกล หรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีความเสี่ยง เมื่อเสียการทรงตัวก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุที่สร้างความสูญเสียต่อร่างกายและอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้  โดยเฉพาะบางรายที่มีอาการเวียนศีรษะและอาเจียนมาก ๆจะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่อย่างรวดเร็วจนทำให้เกิดภาวะช็อกและเสียชีวิตได้
เมื่อเกิดอาการบ้านหมุน ควรปฎิบัติดังนี้
1.หยุดกิจกรรมหรือการทำงานและนั่งพัก 
2.หากมีอาการเวียนศีรษะหรือบ้านหมุนมาก ๆควรนอนราบบนพื้นที่ไม่มีการเคลื่อนไหวและมองไปยังวัตถุที่อยู่นิ่งจนอาการทุเลาลงจึงค่อย ๆลุกขึ้น
3.ถ้ายังรู้สึกง่วงหรือเพลียควรนอนหลับพักผ่อน
 
 ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน คือ
-หมุนหรือหันศีรษะไว ๆ
-การเปลี่ยนอิริยาบทอย่างรวดเร็ว
-การก้ม เงยคอ หรือหันอย่างเต็มที่ 
-ความเครียด วิตกกังวล 
-การอดนอน
-ควรงดดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 
-งดสูบบุหรี่
 
 
ขอบคุณรูปจาก http://www.healthcarethai.com/