รู้ทันไวรัสตับอักเสบ สาเหตุใหญ่มะเร็งตับ
ผศ.นพ.ยุทธนา ศตวรรษธำรง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวถึงความสำคัญของตับว่า ตับเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่ายกาย ทำหน้าที่กรองสารพิษและแบคทีเรียต่าง ๆที่มาจากอาหารและเลือด ก่อนที่จะผ่านไปสู่หัวใจเพื่อไปเลี้ยงเซลส์ต่าง ๆของร่างกาย ดังนั้นตับจึงเป็นอวัยวะที่สำคัญมาก มะเร็งตับมีอยู่ 2 ประเภทด้วยกัน
1.มะเร็งตับที่เกิดจากตัวเซลส์ของตับเอง เกิดจากเซลส์ของท่อน้ำดี ซึ่งพบมากในคนอีสาน ด้วยอุปนิสัยนิยมทานของสุก ๆดิบ ๆ เช่น ลาบ ก้อย ซึ่งอาจจะมีพยาธิใบไม้ในตับ เมื่อเจริญเติบโตในท่อน้ำดีก็จะปล่อยสารเคมีออกมา ทำให้ท่อน้ำดีกลายเป็นมะเร็ง
2.มะเร็งเซลส์ตับ ประมาณ 80% ของมะเร็งเซลส์ตับเกิดมาจากไวรัสตับอักเสบ ไวรัสตับอักเสบมีตั้งแต่ ไวรัสตับอักเสบเอ ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี ไวรัสตับอักเสบดี และไวรัสตับอักเสบอี
-ไวรัส A และ ไวรัสตับอักเสบ E ติดต่อโดยอาหารการกิน ล้างมือไม่สะอาด ปนเปื้อนอุจจาระ แต่เป็นแล้วหายขาด ไม่กลายเป็นตับอักเสบเรื้อรัง และไม่กลายเป็นมะเร็ง
-ไวรัสตับอักเสบ B และ ไวรัสตับอักเสบ C ติดต่อทางเลือด เพศสัมพันธ์ การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน ไวรัสตับอักเสบ B จะติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ส่วนไวรัสตับอักเสบ C จะติดต่อทางเลือด เมื่อเชื้อไวรัสนี้เข้าไปอยู่ในร่างกายเป็นระยะเวลานานจะเข้าไปทำร้ายเซลส์ตับ ทำให้เกิดมะเร็งตับได้
หากกินไขมันมากเกินไป แล้วไม่ออกกำลังกาย ไขมันจะเข้าไปสะสมที่ตับ ถ้าตับมีการอักเสบเรื้อรังจะเกิดเป็นแผลเป็นพังผืดเกิดขึ้นเกิดเป็นตะปุ่มตะป่ำ เรียกว่าตับแข็ง และตัวไวรัสเป็นเหมือน DNA เหมือนเซลส์ในร่างกายก็จะทำให้เซลส์ร่างกายกลายเป็นเซลส์มะเร็งขึ้น
ดังนั้นไวรัสตับอักเสบ B และ ไวรัสตับอักเสบ C ทำให้เกิดเป็นมะเร็งตับ โดยที่ไวรัสตับอักเสบ B จะร้ายกว่าไวรัสตับอักเสบ C คือไม่ต้องผ่านขั้นตอนที่กลายเป็นตับแข็ง ก็สามารถกลายเป็นมะเร็งตับได้เลย