จิบชาอย่างไรให้สุขกายทั้งวัน
ดื่มชาร้อนดีที่สุด
ในใบชามีสารอาหารชีวภาพมากกว่า 200 ชนิด รวมถึงสารอาหารที่สำคัญในใบชา เช่น คาเทชิน ซึ่งเป็นสารประกอบมีฤทธิ์ดักจับอนุมูลอิสระ และธีอะนิน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนในใบชาที่ทำงานสัมพันธ์กับเส้นประสาททำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งหากชงแบบร้อนแล้วดื่มทันทีจะได้รับประโยชน์จากสารอาหารในใบชามากกว่าชงดื่มแบบเย็น ที่สำคัญคือ เมื่อชงแล้วควรดื่มให้หมด ไม่ควรทิ้งไว้นานเกิน 2 ชั่วโมง เพราะสารคาเทชินจะดักจับและรวมตัวกับออกซิเจน ทำให้น้ำชามีสีที่คล้ำลง มีรสชาติฝาดชัดเจน เพราะมีกรด แทนนิสสูง หากดื่มตอนชามีรสฝาดจะส่งผลต่อกระเพาะอาหารและลำไส้คือดูดซึมสารอาหารได้ไม่เต็มที่โดยเฉพาะธาตุเหล็ก แคลเซียม แมกนีเซียม
ดื่มชาหลังอาหาร 2-3 ชั่วโมง เพื่อช่วยย่อย
หลังรับประทานอาหาร 2-3 ชั่วโมง ควรดื่มชาชงแก่เพื่อกระตุ้นการหลังสารน้ำย่อยในกระเพาะอาหารให้ช่วยย่อยอาหารจำพวกวิตามิน สำหรับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ และผู้ที่นิยมจิบชาแทนน้ำเปล่า แนะนำว่าควรจิบชาชงอ่อน เพราะการดื่มชาชงแก่จะไปกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดออกมามากขึ้น ซึ่งจะเกิดการระคายเคืองที่กระเพาะอาหารได้