รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
6 พฤติกรรมทำร้ายผมที่ควรหยุดเสียที
1. สระผมทุกวัน ปกติหนังศีรษะของเราจะผลิตน้ำมันตามธรรมชาติออกมาหล่อเลี้ยงเส้นผม หากสระผมทุกวันก็เท่ากับเป็นการชะล้างน้ำมันธรรมชาติออกไปผลคือ หนังศีรษะแห้งหลุดล่วงเป็นรังแค
คำแนะนำ สระผมทุกๆ 2 วัน
2. ทำผมทรงเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นทรงหางม้า หรือทรงผมมวยยุ่งๆสไตล์เกาหลี ที่สาวๆนิยมทำกันเป็นประจำ อาจทำให้คล่องตัวเวลาหยิบจับอะไรก็จริง แต่การที่เส้นผมถูกรัดเป็นเวลานานๆ และบ่อยครั้ง เป็นการทำร้ายสภาพเส้นผม และยังทำให้เลือดไม่ไหลเวียนบริเวณศีรษะอีกด้วย
คำแนะนำ รวบผม สลับกับปล่อยผม
3. ใช้หวีไม่สะอาดแปรงผม หวีเป็นตัวเก็บเชื้อราที่ดี เพราะขณะที่เราหวีผมซี่ของมันจะดึงเศษหนังศีรษะที่ตายแล้วมาเก็บไว้ตามร่องซี่
คำแนะนำ ควรนำหวีไปล้างให้สะอาดอยู่เสมอ และล้างด้วยครีมนวดผม ใช้แปรงสีฟันเก่า ขัดเบาๆ จากโคนหวีจรดปลายซี่
4. ขยี้ผม สาวๆหลายคนใช้วิธีนี้ในการทำให้ผมแห้ง ซึ่งวิธีนี้ทำให้เกล็ดผมเสียดสีกันจนเปิดออก เส้นผมจึงเปราะบางลงและหลุดติดมือมาได้ง่าย
คำแนะนำ ใช้ผ้าขนหนูซับผมจากโคนจรดปลาย และใช้หวีจัดทรงอีกครั้ง
5. ใช้ไดร์เป่าผมขณะผมเปียก วิธีนี้ทำให้ผมแห้งเสีย
คำแนะนำ ควรรอประมาณ 20 นาทีเพื่อให้ผมแห้งไปบ้างแล้วส่วนหนึ่ง หรือโพกผ้าขนหนูคลุมผมไว้ประมาณ 5 นาทีเพื่อซับน้ำ แล้วเป่าผมอีก 5 นาที
6. อบไอน้ำผม การอบไอน้ำผมเพียงอย่างเดียวไม่สามารถลดอาการผมแห้งแตกปลายให้หมดไปได้
คำแนะนำ ควรเพิ่มความชุ่มชื้นให้หนังศีรษะและเส้นผมด้วยการหมักทรีทเม้นต์หลังการสระผมประมาณ 15 – 20 นาที แล้วล้างออก หลังการสระผมแล้วอาจใส่เซรุ่มเป็นวิตามินให้กับเส้น ซึ่งเราจะหมักผมสลับกับการอบไอน้ำผมก็ได้
