ฮวงจุ้ย “ใหญ่ดีกว่า…เล็ก” : อ.มาโนช ประภาษานนท์


“ใหญ่ดีกว่าเล็ก สูงดีกว่าต่ำ” นี่เป็นคำกล่าวที่ตรงที่สุดในการนำไปใช้กับธุรกิจ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับองค์กร สินค้าหรือบริการ ถ้าคิดจะเข้าสู่วงการธุรกิจที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน การชิงความเหนือกว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นของตัวเอง ไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็นผู้ตามเรื่อยไป

 

หลักฮวงจุ้ยจะเน้นความเหนือกว่าจากภาพลักษณ์ภายนอก ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบตัวอาคาร ป้ายชื่อบริษัท การจัดตกแต่งหน้าร้าน ให้มีความโดดเด่นเพื่อดึงดูดกระแสที่ดี เพราะฉะนั้นการสร้างอิมเมจจึงสามารถทำได้หลายระดับด้วยกัน

 

“ใหญ่ดีกว่า..เล็ก”

“ตึกใหญ่กับตึกเล็ก”

“บ้านใหญ่กับบ้านเล็ก”

“ห้องใหญ่กับห้องเล็ก”

“ป้ายใหญ่กับป้ายเล็ก”

ถามว่า…คนจะมองสิ่งไหนก่อน…?

 

แน่นอน ธรรมชาติของคนจะต้องมองสิ่งที่ใหญ่กว่า เพราะมองเห็นได้ง่ายชัดเจนกว่า หลักฮวงจุ้ยบอกว่าสิ่งที่ใหญ่กว่าจะดึงดูดกระแสได้ง่ายกว่าสิ่งเล็กๆ คำว่า “กระแส” ก็คือความสนใจนั่นเอง

 

คนที่ทำธุรกิจจะต้องคำนึงถึงสิ่งนี้ การทำให้คนสนใจถือเป็นสิ่งสำคัญในเชิงธุรกิจ ไม่เช่นนั้นคงไม่ต้องโฆษณากันให้สิ้นเปลืองเงินหรอก การทำอะไรที่ใหญ่ๆ จะให้ความรู้สึกที่มีพลัง ภาษาธุรกิจเรียกว่ามี Impact มีแรงสะท้อนกลับ

 

“โอ้โห…มันใหญ่จริงๆ” คำอุทานแบบนี้บ่งบอกถึงความรู้สึกตื่นเต้น ตระการตา แน่นอนว่ามันเป็นความรู้สึกในเชิงบวก ซึ่งเป็นสิ่งที่คนทำธุรกิจต้องการ อย่างการติดป้ายโฆษณาจะเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ป้ายที่ใหญ่กว่าย่อมดึงดูดสายตาคนให้หันไปมองได้ง่ายกว่าป้ายเล็ก หรือร้านค้าที่เปิด 3 คูหาติดกันย่อมเด่นกว่าร้านที่มีเพียงคูหาเดียว

 

อย่างสโลแกนที่ฮิตติดปากว่า “เล็กๆ ไม่…ใหญ่ๆ ทำ” จึงเป็นข้อสรุปได้ว่ายังไงใหญ่ย่อมดีกว่าเล็ก เฉพาะในเชิงของการสร้างภาพลักษณ์นะครับ ไม่เกี่ยวกับเรื่องอื่น

 

“สูงดีกว่า…ต่ำ” ความสูงให้ความรู้สึกที่เหนือกว่า คำว่า “เหนือกว่า” นี่แหละครับที่นักธุรกิจทั้งหลายชอบหยิบมาใช้เพื่อต่อกรกับคู่แข่ง อย่างการแข่งกันสร้างตึกที่สูงที่สุดในโลก จุดประสงค์ก็เพื่อต้องการสร้างอิมเมจให้เห็นถึงความเหนือกว่าคนอื่น ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ในเชิงบวก และสามารถทำให้จดจำได้ง่ายอีกด้วย

 

อย่างรัฐดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด ถึงแม้จะเป็นประเทศเล็กๆ ในตะวันออกกลางที่เต็มไปด้วยทะเลทราย ไม่มีจุดดึงดูดความสนใจอะไรเลย แต่ดูไบทำให้คนรู้จักได้ด้วยการสร้างสิ่งปลูกสร้างที่เหนือชั้นกว่าประเทศอื่นๆ อย่างการถมทะเลสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ “ปาล์ม จูไมราห์” บนเกาะที่เนรมิตเป็นรูปต้นปาล์ม หรือการสร้างตึกที่สูงที่สุดในโลก “เบิร์จ คาลิฟา” ล้วนสร้างจุดขายให้ประเทศเลยทีเดียว

 

หลักฮวงจุ้ยบอกว่า อาคารสูงแสดงถึงความเป็นประธาน อาคารที่ต่ำกว่าคือบริวาร ความสูงทำให้โดดเด่น เป็นจุดดึงดูดความสนใจได้ง่าย ทำให้อาคารนั้นได้รับกระแสที่ดีกว่าอาคารข้างเคียง อย่างกรณีอาคารพาณิชย์ที่มีความสูงเท่ากัน การปรับฮวงจุ้ยให้เหนือกว่าห้องข้างๆ จะใช้วิธีทำห้องนั้นให้สูงขึ้นไปจากเดิม เพราะไม่สามารถขยายด้านข้างออกไปได้ โดยการต่อเติมชั้นบนสุดขึ้นไป 1 ชั้น

 

สมมุติอาคารมี 4 ชั้น ก็ขยายเป็น 5 ชั้น ถ้าไม่ใช้การต่อเติมก็อาจจะใช้การติดธงไว้บนยอดอาคาร เพราะนอกจากจะเพิ่มความสูงได้แล้ว ยังสร้างจุดที่แตกต่างจากห้องอื่นๆ ได้อีกด้วย

 

ลักษณะที่ต่ำหรือเตี้ยกว่าในทางฮวงจุ้ยถือว่าเป็นลักษณะด้อยและเป็นที่รองรับแรงกดดัน ยิ่งอยู่ใกล้กันมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีผลมากเท่านั้น เพราะฉะนั้น เวลาจะเลือกทำเลหรือตำแหน่งในการจะทำอะไรก็ตาม มักจะเลือกอยู่สูงเอาไว้ก่อน ไม่ควรเลือกต่ำ

 

เห็นไหมครับ เทคนิคเพียงเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งหลายคนมองข้าม แต่ในทางฮวงจุ้ยแล้วถือว่าสำคัญและไม่ควรละเลย ผู้บริหารทั้งหลายควรใส่ใจกันนะครับ