โอกาส SME ไทยในตะวันออกกลาง


นายอัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์ ประธานสภาธุรกิจไทยในสหรัฐอาหรับเอมิเรต
ส์ กล่าวว่า กลุ่มประเทศแถบตะวันออกกลางไม่ว่าจะเป็น ดูไบ คูเวต บาห์เรน โอมาน เป็นต้น ถือเป็นตลาดที่น่าสนใจเข้าไปทำการค้าสำหรับเอสเอ็มอีไทยในหลากหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นอาหารแปรรูป เครื่องประดับและอัญมณี สปา เครื่องสำอางสมุนไพร หรือแม้แต่แฟชั่น ซึ่งผู้ประกอบการไทยมีความได้เปรียบคู่แข่งประเทศอื่นในเรื่องของสัมพันธภาพดีและการคุ้นเคยกับสินค้าของไทย เพราะประชากรของดูไบก็นิยมมาท่องเที่ยวในเมืองไทยจำนวนมาก แต่ความเสียเปรียบจะเป็นในเรื่องของต้นทุนการผลิตที่ประเทศคู่แข่งอาจควบคุมต้นทุนได้ดีกว่าอย่างประเทศจีน เป็นต้น ดังนั้นผู้ประกอบการไทยจึงต้องศึกษาวิธีการบริหารจัดการที่เจาะลึกไปถึงการดูแลต้นทุนการผลิตและการขนส่งมายังประเทศดูไบ สำหรับภาษีนำเข้าของสินค้าของดูไบและประเทศอื่นแถบตะวันออกกลางนั้นจะคิดเพียง 5% ขณะที่สินค้านำเข้าชั่วคราวเพื่อส่งออกต่อ ภายใน 6 เดือน ไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่มีความต้องการนำเข้าสินค้าจำนวนมาก ในส่วนของแรงงานไทยก็มีความได้เปรียบในเรื่องของแรงงานฝีมือ เช่น ช่างเฟอร์นิเจอร์ ช่างไม้ และงานช่างฝีมืออื่นๆไม่แพ้ชาติใด ดังนั้นรัฐจะต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องก็จะเป็นโอกาสที่ดีของแรงงานไทยได้มากขึ้น

 

อย่างไรก็ตามการที่ผู้ประกอบการจะเข้าไปเจาะตลาดตะวันออกกลางได้ง่ายมากขึ้นนั้น ภาครัฐต้องมองเรื่องช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า ควรมีการทำโรดโชว์และประชาสัมพันธ์มากขึ้น ซึ่งงานลักษณะแบบนี้จะทำให้เอสเอ็มอีกระจายสินค้าไปยังตลาดตะวันออกกลางได้ง่ายมากขึ้นภายใต้การส่งเสริมของรัฐบาล

 

ทั้งนี้สภาธุรกิจไทยในสหรัฐอาหรับเอมิเรต
ส์ก็มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมผู้ประกอบการไทยไปเจาะกลุ่มตลาดตะวันออกกลางรวมถึงประเทศดูไบ ผู้ที่สนใจสามารถเข้าดูรายละเอียดได้ที่ www.tbcuae.com