กฎหมายเบื้องต้นสำหรับร้านอาหารที่มีการแสดงดนตรีสด


          คุณแอน พลอยส่องแสง กรรมการฝ่ายต่างประเทศ สภาทนายความ กล่าวว่า กฎหมายร้านอาหารมีเจตนารมณ์ในการออกกฎหมายเพื่อคุ้มครองประชาชนด้านสุขลักษณะ และการอนามัยสิ่งแวดล้อม หรือการสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม โดยได้กำหนดนิยามที่เกี่ยวข้องกับร้านอาหารไว้ว่า “ สถานที่จำหน่ายอาหาร ” หมายความว่า อาคาร สถานที่ หรือบริเวณใด ๆ ที่มิใช่ที่หรือทางสาธารณะ ที่จัดไว้เพื่อประกอบอาหารหรือปรุงอาหารจนสำเร็จ และจำหน่ายให้ผู้ซื้อสามารถบริโภคได้ทันที ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่ายโดยจัดให้มีบริเวณไว้สำหรับการบริโภค ณ ที่นั้น หรือนำไปบริโภคที่อื่นก็ตามดังนั้น ธุรกิจร้านอาหารจึงถือเป็นสถานที่จำหน่ายอาหารตาม พรบ.การสาธารณสุข 2535 เมื่อเป็นสถานที่จำหน่ายอาหารแล้ว กฎหมายฉบับนี้ก็เข้ามาควบคุมโดยกำหนดให้การจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหารที่มีพื้นที่ ตั้งแต่ 200 ตารางเมตรขึ้นไปต้องขออนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น และหากมีพื้นที่ไม่เกิน 200 ตารางเมตร ก็ต้องทำการแจ้งเจ้าพนักงานท้องถิ่นเพื่อขอรับหนังสือรับรองการแจ้งจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น

 

          กฎหมายที่ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารประเภทร้านอาหารที่มีการแสดงดนตรีสด หรือมีการแสดงอื่นๆ ควรให้ความสำคัญ ได้แก่

 

          1.กฎหมายลิขสิทธิ์ ต้องรู้ว่าหากเปิดเพลงให้ลูกค้าฟัง เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่ เมื่อก่อนถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์  แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้มีแนวฎีกาออกใหม่ ว่าการเปิดเพลงในร้านอาหารไม่ได้เป็นการไปกระทบกระเทือนถึงผลประโยชน์ ทางการค้าของเจ้าของลิขสิทธิ์ เช่นนักร้อง ค่ายเพลง เป็นต้น โดยตามแนวฎีกาใหม่จึงไม่ถือว่าการเปิดเพลงให้ลูกค้าฟังในร้านอาหารเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์

 

          2.กฎหมายเครื่องหมายการค้า

หากทางร้านมีการทำเครื่องหมายการค้า ชื่อทางการค้า ก็ต้องทราบกฎหมายนี้ด้วย จะต้องไม่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของผู้อื่น จนทำให้สาธารณชนสับสนหลงผิดในความเป็นเจ้าของ

 

          3.กฎหมายแรงงาน เช่น ไม่เอาเปรียบค่าแรงและเวลาการทำงานของลูกจ้างในกรณีที่ร้านอาหารเปิดให้บริการช่วงเวลากลางคืน รวมถึงให้ความสำคัญกับช่วงอายุของลูกจ้างว่าเหมาะสมกับตำแหน่งหรือไม่

 

          4.กฎหมายภาษีอาการ เช่น ภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีหัก ณ ที่จ่าย