การเคหะแห่งชาติเตรียมปิดมหากาพย์ 16 ปี โครงการบ้านเอื้ออาทร


ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า การเคหะแห่งชาติใกล้บรรลุความสำเร็จในการดำเนินโครงการบ้านเอื้ออาทรครบถ้วนตามเป้าหมาย 281,556 หน่วย ตามมติคณะรัฐมนตรีที่ให้ปรับลดหน่วยก่อสร้างครั้งหลังสุด เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2552 ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ 280,790 หน่วย มียอดขาย 269,973 หน่วย คิดเป็น 96.15%
ส่วนที่เหลือจำนวน 10,817 หน่วยนั้น การเคหะแห่งชาติวางแนวทางการขายไว้หลายรูปแบบ เช่น เข้าร่วมโครงการบ้านล้านหลังของ ธอส. พร้อมอัดแคมเปญ ลด แลก แจก แถม รวมถึงจ้างเอกชนบริหาร การขาย ให้ค่าตอบแทนผู้แนะนำลูกค้ามาซื้อโครงการ เช่าเพื่อซื้อ (Rent to Buy) ให้เอกชนเช่าเหมาอาคาร และขายในราคาพิเศษให้เป็นสวัสดิการหน่วยงานรัฐ เป็นต้น

ส่วนสินทรัพย์รอการพัฒนา (Sunk Cost) พื้นที่รวม 7,119 ไร่ ซึ่งชะลอโครงการบ้านเอื้ออาทรเดิมแล้วปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงการให้สอดคล้องกับศักยภาพของที่ดินและความต้องการซื้อของประชาชนขณะนี้วางแผนพัฒนาแล้ว 4,032 ไร่ อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างที่อยู่อาศัย 35,641 หน่วย มียอดขาย แล้ว 27,525 หน่วย คิดเป็น 77.23% และอีก 3,087 ไร่ กำลังวางแผนพัฒนาในระยะ 4 ปี (พ.ศ.2562 – 2565) ในรูปแบบใหม่ๆ เช่น โครงการร่วมทุนภาคเอกชน (Joint Inverstment/Joint Operation) หรือบ้านสำหรับผู้สูงอายุ (Senior Complex) บ้านโครงเหล็กสำเร็จรูป (Smart Home) ลานตลาดหรือพื้นที่จัดประโยชน์

โครงการบ้านเอื้ออาทรเกิดขึ้นตามมติ ครม. ปี 2546 มีจำนวนหน่วยก่อสร้างรวม 601,727 หน่วย หลังจากนั้นในปี 2552 ครม.มีมติปรับลดลงเหลือ 281,556 หน่วย และ มติ ครม. ปี 2554 เห็นชอบแผนพลิกฟื้นองค์กรในส่วนของแผนการบริหารสินทรัพย์รอการพัฒนา (Sunk Cost) เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินระยะยาว และใช้ประโยชน์ในที่ดิน ซึ่งการเคหะแห่งชาติดำเนินการสรุปแนวทางในการแก้ไขปัญหาบ้านเอื้ออาทรที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานานให้สำเร็จลุล่วงภายในรัฐบาลนี้จนเข้าสู่การพัฒนาระยะสุดท้าย