อย่ารอช้า! สารสกัดจากพืชและสมุนไพรไทยหลังเป็นที่ต้องการในตลาดโลก


ด้วยจุดเด่นของสารสกัดจากพืชและสมุนไพรไทยที่มีอยู่แต่เดิม หากสามารถพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องคุณภาพ และมาตรฐานมีสิทธิ์ที่จะแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดจากคู่แข่งในอุตสาหกรรมนี้

น.ส.เกษสุรีย์ วิจารณกรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองชิงต่าว ประเทศจีน เปิดเผยว่า จีนยังคงเป็นเจ้าของตลาดสินค้าที่ผลิตสารสกัดจากพืช โดยสินค้ายอดนิยมที่ทำการส่งออกไปยังตลาดต่างๆ มี 7 อย่างด้วยกัน ได้แก่

• น้ำมันยูคาลิปตัส ที่ถูกนำไปใช้ฆ่าเชื้อ, ผลิตยา และเครื่องสำอาง นอกจากนี้ยังใช้เป็นส่วนผสมขอยาแก้ไอ, น้ำยาบ้วนปาก, ยาสีฟัน และผลิตภัณฑ์ปรับอากาศ

• สารสกัดจากหญ้าหวาน นำไปใช้แทนน้ำตาล ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย รับเทรนด์สุขภาพที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ ณ ขณะนี้

• สารสกัดจากเมนทอล นำมาทำยาสีฟัน, น้ำหอม, เครื่องดื่ม และลูกอม รวมถึงนำไปใช้เป็นส่วนผสมในยาเพื่อบรรเทาอาการคันผิวหนัง บรรเทาอาการปวดหัว จมูก และลำคออักเสบ

• สารสกัดจากชะเอม นำไปใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ด้วยความเด่นของคุณสมบัติทั้งให้ความขาว กันแดด ซึ่งผู้บริโภคเพศหญิงจะชอบเป็นพิเศษหากมีชะเอมเป็นส่วนผสม

• สารสกัดจากดอกดาวเรือง ถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร ยา และอาหารสัตว์ ซึ่งในดอกดาวเรืองจะมีสารที่เรียกว่า “ลูทีน” ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษช่วยกรองแสง และป้องกันรังสีที่ส่งผลอันตรายต่อดวงตา

• สารสกัดจากแครนเบอร์รี่ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของจอประสาทตา และป้องกันแสงสีจะทำลายดวงตา

• สารสกัดจากกรูติน ช่วยให้ระบบการทำงานของหลอดเลือดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในเรื่องการไหลเวียนของโลหิต ป้องกันการเกิดโรคเส้นเลือดโลหิตฝอยแตก

จากที่กล่าวมา พบว่าประเทศไทยก็มีขีดความสามารถมากพอที่จะผลิต และสกัดสารต่างๆ ออกมาเป็นของตัวเองได้ และด้วยความต้องการสินค้าในตลาดโลก จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการชาวไทยที่จะหันมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มาจากสารสกัด และสมุนไพร อีกทั้ง ประเทศไทยมีชื่อเสียงในเรื่องนี้เป็นทุนอยู่เดิม หากมีการส่งเสริม ให้คำแนะนำที่ดี เชื่อว่าจะสามารถเข้ามาแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดจากคู่แข่งอื่นๆ ได้อย่างแน่นอน

ข้อมูล: กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ