Smart SME ทำการรวบรวมเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 วันที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นมามายในวันสุดท้ายของการเสนอชื่อของคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรคการเมือง
1.ไทยรักษาชาติยื่น กกต. “ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี” แคนดิเดตนายกฯ
กรรมการผู้บริหารไทยรักษาชาติเดินทางไปถึงสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อยื่นลงทะเบียนสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค พร้อมกับจะยื่นรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในนามของพรรคไทยรักษาชาติ ท่ามกลางข่าวลือที่สะพัดตลอดทั้งวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 ว่าจะเชิญบุคคลระดับสูงที่ไม่ใช่คนจากตระกูลชินวัตร และตระกูลวงศ์สวัสดิ์ เพียงชื่อเดียวเท่านั้น
โดยหลังจากที่ร.ท.ปรีชาพล ยื่นซองเอกสารต่อกกต. ได้เปิดเผยซองเอกสารดังกล่าว และคลี่หน้ากระดาษถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ พบว่า เป็นภาพของ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และสื่อมวลชนได้ร้องเสียงฮือออกมาอย่างทันที
2.ไอจี “ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ” โพสต์เราจะเดินไปด้วยกัน
ในอินสตราแกรมส่วนพระองค์ ได้ทรงโพสต์รูปและข้อความเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 ระบุว่า “Good morning ค่ะทุกคน วันนี้เราจะเริ่มวันกันที่สะพานแนวรัฐ จังหวัดเชียงใหม่ ตอน 6 โมงเช้า แล้วเราจะเดินไปด้วยกัน อันที่จริงรูปนี้เป็นภาพจากเมื่อเราไปทำงาน To Be Number One ที่เชียงใหม่และลำปาง และไปทำงานที่พิษณุโลก ระหว่างนั้น ดิฉันก็ได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนหลายๆ สถานที่ โดยเฉพาะวัด เพราะเชียงใหม่มีวัดเยอะมาก ถ้าเราจะไปไหว้พระ 9 วัดที่เชียงใหม่คงใช้เวลาไม่นาน เพราะวัดอยู่ติดๆ กันหมด ตอนดิฉันอยู่เชียงใหม่คราวนี้ก็ยังได้ใส่บาตรทุกวันด้วย แต่วันนี้จะเริ่มที่สะพานแนวรัฐ ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำปิงเก่าแก่ซึ่งทำด้วยไม้สัก สร้างเมื่อประมาณปี 2433 และได้รับการสร้างใหม่ให้เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กเมื่อปี 2510 หลังจากเราเดินข้ามสะพานนี้แล้ว เราก็เริ่มวันด้วยกาแฟที่ร้านกาแฟริมปิงซักแก้วนึงจะได้สดชื่นและกระฉับกระเฉง”
3.#ทรงพระสเลนเดอร์ มาเป็นอันดับ 1 ในทวิตเตอร์
หลังจากที่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงตอบรับเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยรักษาชาติ ปรากฏว่าการตอบรับและความเคลื่อนไหวของคนในโลกโซเชียลก็มีสีสันมากขึ้น โดย #ทรงพระสเลนเดอร์ มาเป็นอันดับหนึ่ง อันดับสอง #ไทยรักษาชาติ ส่วนภาษาอังกฤษ ตัวที่ติดมี #ThaiRaksaChart #EndGame เป็นต้น
สำหรับคำว่า #ทรงพระสเลนเดอร์ ขึ้นอันดับหนึ่งมาจากที่ท่านทรงใช้ทวิตเตอร์ส่วนพระองค์ตอบประชาชนที่เข้าไปแสดงความคิดเห็นว่า “ทรงพระเจริญ” หลังจากมีกระแสข่าวว่าพระองค์จะถูกนำเสนอขึ้นเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยรักษาชาติ แล้วพระองค์ทรงตอบกลับผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นผ่านอินสตาแกรมส่วนพระองค์ @nichax ว่า “ถ้าลุ้นอย่าพูดว่าทรงพระเจริญเพราะไม่อินเทรนด์ ถ้าจะให้พรก็บอกว่าทรงพระสเลนเดอร์” หลังจากนั้น #ทรงพระสเลนเดอร์ หมายถึงตัวพระองค์
4.ย้อนอดีต! พระบรมราชโองการ “ลาออกจากฐานันดรศักดิ์” ทูลกระหม่อมหญิง
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา ทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ เมื่อ ปี 2515 โดยเมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2515 ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 89 ตอนที่ 112 ฉบับพิเศษหน้า 1 ประกาศพระบรมราชโองการ เรื่อง ลาออกจากฐานันดรศักดิ์
5.ไพบูลย์ แถลงขอกกต.สั่งห้าม ไทยรักษาชาติเสนอชื่อ “ทูลกระหม่อมฯ” เป็นนายกฯ
นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป เข้ายื่นหนังสือให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้พิจารณาและวินิจฉัยพรรไทยรักษาชาติ ว่าเข้าข่ายขัดต่อระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียง เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพ. ศ. 2561 หมวด 4 ลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งข้อ 17 หรือไม่ หลังพรรคไทยรักษาชาติ เสนอชื่อ “ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในนามพรรคไทยรักษาชาติ
6.ไทยรักษาชาติยันไม่ใช้รูป “ทูลกระหม่อม” หาเสียง
เลขาธิการพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวอีกว่า ส่วนกิจกรรมทางการเมืองต่างๆ นั้น คงต้องรอให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศรับรองผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีในนามพรรคอย่างเป็นทางการก่อน จึงจะเดินหน้าทำกิจกรรมการเมืองได้ และคงสุดแล้วแต่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ จะทรงเมตตากับพรรคไทยรักษาชาติ
“แต่พรรคจะไม่นำรูปของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ไปโพสต์ทางโซเชี่ยลมีเดียส์ หรือใช้ในการหาเสียง หรือแม้แต่การกล่าวอ้างใดๆ อย่างแน่นอน และพรรคจะเดินหน้าหาเสียงโดยชูนโยบายที่คงไว้เหมือนเดิม”
7.ทูลกระหม่อมฯ โพสต์ “ขอโอกาสนำประเทศสู่ความเจริญรุ่งเรือง”
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงโพสต์ไอจี ยืนยันให้ไทยรักษาชาติเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ รับตั้งใจเสียสละ และขอโอกาสนำพาประเทศสู่ความเจริญรุ่งเรือง
8.ปฏิบัติต่อ“ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ”เหมือนเดิม
สำนักข่าวอิศราได้เผยแพร่ว่า ภายหลังจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีให้กับพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ต่อมากองข่าวสำนักราชเลขาธิการ ยืนยันการกล่าวถึงและปฏิบัติตัวต่อ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ยังถวายพระเกียรติแบบเดิมทุกประการ ไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ
9.กกต.ย้ำ ทุกพรรค”ถอนชื่อ”แคนดิเดตไม่ได้แล้ว
ทั้งนี้ เป็นเพราะพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 13 วรรค 2 ระบุว่า พรรคการเมืองจะถอนหรือเปลี่ยนแปลงรายชื่อบุคคลที่พรรคเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรีได้ก็ต่อเมื่อผู้ถูกเสนอชื่อ ตาย หรือ ขาดคุณสมบัติเท่านั้น และต้องถอนก่อน เวลาปิดรับสมัครคือเวลา 16.30 น. โดยจากนี้ทุกพรรคการเมืองจะไม่สามารถถอนเพราะเหตุผลอื่นได้เด็ดขาด
10.พระราชโองการในหลวง “ทูลกระหม่อม”ต้องอยู่เหนือการเมือง
เวลา 22.40 วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวิชิราลงกรณ์ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า
สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยเป็นศูนย์รวมและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนชาวไทย พระมหากษัตริย์และพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ ทรงดำรงสถานะอยู่เหนือการเมือง และทรงประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อประเทศชาติ และประชาชนมาโดยตลอด ดังเป็นท่ีประจักษ์ชัดเจนว่าตลอดระยะเวลา 70 ปี แห่งการครองสิริราชสมบัติของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานับประการ เพื่อความผาสุขและความอยู่ดีกินดีของประชาชน ทรงปกครองประเทศโดยทศพิธราชธรรม และนำพาประเทศ ให้ผ่านพ้นวิกฤตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยก่อการร้าย ภัยพิบัติ และภัยที่เกิดจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองในประเทศ ทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุข และดูแลปกป้องประชาชนด้วยน้ำพระราชหฤทัยที่เปี่ยมด้วยพระมหากรุณาอย่างมิอาจประมาณได้ ประชาชนทุกหมู่เหล่าเคารพรัก และเทิดทูนพระองค์เสมือนด้วยบิดา จึงทรงเป็น “พ่อแห่งแผ่นดิน” โดยแท้จริง
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชีนีนาถ ทั้งยังเป็นพระเชษฐภคินีในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์แม้จะทรงกราบถวายบังคมลาออกจากฐานันดรศักดิ์ไปแล้ว ตามกฎมณเฑียรบาล โดยได้กราบบังคมทูลพระกรุณาเป็นลายลักษณ์อักษร หากยังทรงสถานะและดำรงพระองค์ในฐานะสมาชิกแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงเป็นที่รักใคร่ของสมเด็จพระบรมชนกนาถ และสมเด็จพระบรมราชชนนี ตลอดจนเป็นที่เคารพยกย่องของพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์และประชาชนชาวไทยมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ด้วยทรงประกอบพระกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน โดยในการดำรงพระองค์และการประกอบพระกรณียกิจต่างๆ นั้น ทรงปฏิบัติด้วยการถวายงานของข้าราชการในพระองค์ และหน่วยราชการต่างๆ ของหน่วยราชการในพระองค์ตลอดมา การนำสมาชิกชั้นสูงในพระบรมราชวงศ์มาเกี่ยวข้องกับระบบการเมือง ไม่ว่าจะโดยทางใดก็ตาม จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อโบราณราชประเพณี ขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรมของชาติ ถือเป็นกระทำที่มิบังควร ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
อนึ่ง บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญทุกฉบับ รวมทั้งฉบับปัจจุบัน มีหมวดว่าด้วยพระมหากษัตริย์เป็นการเฉพาะ ซึ่งเป็นบทบัญญัติที่รองรับสถานะพิเศษของสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่เหนือการเมือง และทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิด กล่าวหา หรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆ มิได้ ซึ่งบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญดังกล่าวย่อมครอบคลุมถึงพระราชินี พระรัชทายาท และพระบรมราชวงศ์ซึ่งมีความใกล้ชิดกับพระมหากษัตริย์ ดั่งที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ปฏิบัติราชกรณียกิจร่วมกับพระองค์ หรือแทนพระองค์อยู่เป็นนิจ ดังนั้น พระราชินี พระรัชทายาท และพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ จึงอยู่ในหลักการเกี่ยวกับการดำรงอยู่เหนือการเมือง และความเป็นกลางทางการเมืองของพระมหากษัตริย์ด้วย และไม่สามารถดำรงตำแหน่งใดๆ ในทางการเมืองได้ เพราะจะเป็นการขัดกับเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ และประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
อ้างอิง: